กรณีพบศพชายหญิงสงสัยเป็นศพนางรัชนี ธีระชิต อายุ 75 ปี กับนายธีระศักดิ์ ธีระชิต อายุ 55 ปี แม่และพี่ชายของนายอานันท์ ธีระชิต อัยการผู้เชี่ยวชาญประจำสำนักงานอัยการเขต 5 เชียงใหม่ ที่ถูกคนร้ายอุ้มขึ้นรถตู้หายไปจากบ้านเลขที่ 34/1 ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 41 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยศพถูกสัปเหร่อนำไปเผาทำลายที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวสัปเหร่อไว้สอบสวน และนำเศษซากศพที่เหลือส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นแม่และพี่ชายของอัยการหรือไม่นั้น
ต่อมาตอนสายวันที่ 24 ส.ค.
พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก.สภ.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมพนักงานสอบสวนพานายอานันท์ ธีระชิต อัยการผู้เชี่ยวชาญประจำสำนักงานอัยการเขต 5 เชียงใหม่ และญาติ เดินทางไปยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อไปดูศพเหยื่อทั้ง 2 แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแม่และพี่ชายหรือไม่ เนื่องจากสภาพศพถูกเผาจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม เจ้าหน้าที่ต้องเก็บตัวอย่างเลือดของญาตินำไปตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเออีกครั้ง
ทางด้าน จ.ชัยภูมิ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ. จัตุรัส ควบคุมตัวสัปเหร่อไว้สอบเครียด เพื่อหาที่มาของศพชายหญิง นั้น พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ ผบก.ภ.จ. ชัยภูมิ พ.ต.อ.สุธีร์ เศรษฐวงศ์ ผกก.สภ.อ.จัตุรัส สั่งกำชับให้ พ.ต.ท.ปราโมทย์ พลหงส์ รอง ผกก.(สส.) สอบสวนให้ละเอียด เพราะอาจเกี่ยวพันกับแม่และพี่ของอัยการ โดยทราบชื่อสัปเหร่อรายนี้ว่านายบุญส่ง สิงห์ครอง อายุ 61 ปี เป็นสัปเหร่อประจำวัดใหม่หนองโสน หมู่ 11 ต.หนองบัวโคก อ.จัตุรัส
จากการสอบสวนนายบุญส่งรับสารภาพว่า
เมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา นายเชาว์ หรือใหญ่ มาขุนทด อายุ 51 ปี ญาติของภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 10 ต.ทัพรั้ง อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา ได้ขับรถมารับที่บ้าน บอกว่าให้ช่วยจัดการศพ 2 ศพ ที่เพื่อนบรรทุกมากับรถตู้มาที่บ้าน อ.พระทองคำ เมื่อไปถึงพบในรถตู้ สีขาว จำยี่ห้อและทะเบียนไม่ได้ จอดบริเวณบ้านนายเชาว์ ภายในรถมีศพชายหญิงห่อด้วยพลาสติก สภาพเลือดไหลนอง โดยศพผู้หญิงอายุราว 60 ปี ส่วนศพผู้ชายประมาณ 50 ปี จึงบอกให้นายเชาว์นำศพทั้ง 2 ไปส่งให้ที่บ้านซึ่งอยู่ติดกับรั้ววัดในคืนวันที่ 22 ส.ค. โดยใช้ถุงพลาสติกสีดำบรรจุศพไป
นายบุญส่งกล่าวอีกว่า
กระทั่งนายเชาว์นำศพทั้ง 2 มาส่งที่บ้านตามนัดหมาย จึงขนศพใส่รถเข็นไปเผาในเมรุของวัดใหม่หนองโสน แต่บังเอิญจังหวะนั้นมีพระในวัดเดินผ่านมาเห็นมีการเผาศพ โดยทางวัดไม่ทราบเรื่อง เกิดสงสัยเลยแจ้งตำรวจมาตรวจสอบจนถูกจับกุม ในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายและทำลายศพ
พร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนนายเชาว์ หรือใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอหมายจับต่อศาลจังหวัดชัยภูมิแล้ว และจะติดตามตัวมา สอบสวนดำเนินคดีต่อไป