5 พ.ค.60 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เวลา 20.30 น. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 159/2560 ลงวันที่ 6 เม.ย.60.เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 358/36 ซอยเฉลิมพระเกียรติ 19 ถนนพัทยาสาย 3 ย่านพัทยาใต้ หลังสืบทราบว่า น.ส.ปะระนิสา หรือ "นิสา" ไชยนาจินดากุล หรือไชยนาพาณิชย์กุล (นามสกุลเดิม) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในฐานความผิด 6 ข้อหาหนัก อาทิ ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณี และร่วมกันเป็นธุระจัดหาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับ แต่ น.ส.ปะระนิสา ที่นั่งอยู่ในบ้านกับญาติพี่น้อง ไม่ยอมให้ควบคุมตัวแต่โดยดี ซ้ำยังโวยวายหาว่าถูกตำรวจกลันแกล้ง ทาง พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ จึงประสานขอกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา และ ทหาร สังกัด กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ร่วมมาสมทบเพื่อกดดันผู้ต้องหาให้ออกมามอบตัว โดยเสียเวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานนับชั่วโมง น.ส.ปะระนิสา จึงยอมออกมามอบตัวพร้อมกับปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะไปให้การในชั้นศาล ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวแต่อย่างใด
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 7 ม.ค.59 พ.ต.ท.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ รอง ผกก.กก.สส.3 บก.สส.ภ.2 สืบทราบว่า ที่ร้านนางฟ้าคาราโอเกะ ในซอยเก้าไร่ ถ.พัทยาสาย 3 ย่านพัทยากลาง มีการลักลอบนำเด็กสาวมาค้าประเวณีอย่างผิดกฎหมาย จึงได้วางแผนส่งสายลับนำเงินสดไปติดต่อล่อซื้อ เมื่อได้หลักฐานชัดเจนจึงบุกเข้าจับกุม ซึ่งในระหว่างนั้นได้มี น.ส.สมหมาย จงธนกมล อายุ 50 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ออกมาสมอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ดูแลร้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
แต่ภายหลัง น.ส.สมหมาย กลับคำให้การพร้อมกับระบุว่าตัวเองเป็นเพียงแม่ครัว ส่วนสาเหตุที่ตอนแรกอ้างว่าเป็นผู้ดูแลนั้น เป็นเพราะเจ้าของร้านสั่งให้ตัวเองเป็นคนออกหน้า ยอมให้ตำรวจควบคุมตัวไปที่โรงพักก่อน แล้วจะหาวิธีช่วยประกันตัวออกมาภายหลัง กระทั่งเวลาล่วงเลยไปเป็นปีก็ไม่มีแววว่าจะได้ออกจากเรือนจำ ทำให้ น.ส.สมหมาย ให้การซัดทอดว่า น.ส.ปะระนิสา เป็นเจ้าของร้านนางฟ้าคาราโอเกะตัวจริง ซึ่งในเวลาต่อมา พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา เจ้าของคดี จึงได้ทำการสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานอย่างรัดกุม ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ กระทั่งตำรวจท่องเที่ยวพัทยาทราบเบาะแส จึงนำกำลังไปควบคุมตัวได้อย่างทุลักทุเล
ขณะที่ประวัติของ น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล หรือ "นิสา" หรือ "เดียร์" เคยตกเป็นข่าวจนดังเกรียวกราวไปทั่วประเทศ เมื่อต้นเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว หลังถูก พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต หรือสารวัตรกาโต้ สว.กก.1.บก.สส.ภ.2 กับพวก ทำการล่อซื้อประเวณี ก่อนที่จะมีการปะทะคารมกันจนวุ่นวาย เพราะฝ่าย น.ส.ปะระนิสา ปฏิเสธไม่ยอมรับผิดและไม่ยอมไปโรงพัก ก่อนที่จะโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อร้องทุกข์กับนายตำรวจระดับสูง เมื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ขอคุยกับหัวหน้าชุดจับกุม ทาง พ.ต.ท.นราวุธ ปฏิเสธที่จะพูดคุย เพราะไม่เชื่อว่าเป็น ผบ.ตร. ตัวจริง ถึงแม้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีโทรศัพท์มาอีกครั้ง พ.ต.ท.นราวุธ ก็ยังไม่เชื่อว่าผู้บังคับบัญชาโทรมา
กระทั่ง น.สปะระนิสา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ให้ดำเนินคดี พ.ต.ท.นราวุธ กับพวกฐานบุกรุกและบังคับข่มขืนใจ พอเรื่องนี้รู้ไปถึงหูสื่อมวลชนจึงพากันนำเสนอข่าว และกลายเป็นที่ฮือฮาโด่งดังไปทั่วประเทศ เนื่องจากมีบิ๊กตำรวจระดับ ผบ.ตร.เข้ามาเกี่ยวข้อง กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ก.ค.59 น.ส.ปะระนิสา ถูกศาลออกหมายจับในข้อหาไม่มีใบอนุญาตสถานประกอบการบันเทิง ซึ่งเจ้าตัวได้เดินทางเข้าพบตำรวจ เพื่อให้ปากคำและประกันตัวออกไปสู้คดี ขณะที่ พ.ต.ท.นราวุธ ปัจจุบันนี้ ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ยังต้นสังกัดเดิมแล้ว