คำต่อคำ อดีตสาวค้ากาม แฉขนมหวานขายดี ช่วงไฮซีซั่น

น.ส.เค กล่าวว่า ตนเป็นชาว จ.แม่ฮ่องสอน เรื่องค้าประเวณียอมรับว่าเคยเข้าวงการดังกล่าว เนื่องจากฐานะยากจน จึงตัดสินใจทำ โดยติดต่อคนชื่อ ‘จ.' ทำได้ 2 ปี ก็ตั้งตัวได้ ต่อมาทำเอง ติดต่อเอง ลูกค้าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ , สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) , สมาชิก อบจ. , ครู และหมอ ทำได้ 3-4 ปี ก็เลิกค้าประเวณี

เมื่อปี 2559 เคยถูกตำรวจจับกุม โดยเพื่อนที่ชื่อ จ.ได้โทร.หา ถามว่ามีเด็กหรือไม่ เพราะมี ‘นาย ภาค 5' จะลงมา ตนก็บอกว่าถ้าเป็นตำรวจตนจะไม่รับแขก เพราะไม่ไว้ใจ แต่ก็ถูกเพื่อนชื่อ จ.คะยั้นคะยอ ให้หาเด็กมาแทน ตนจึงไปสอบถามเพื่อนอีกคน ซึ่งมารดากำลังป่วยหนัก ต้องการใช้เงิน จึงได้ติดต่อไป และเพื่อนก็ตกลงกับ และได้ติดต่อคนชื่อ จ.ไป

ต่อมาคนชื่อ จ. ได้บอกว่าให้รีบนำเด็กมาส่ง ลูกค้ากำลังรออยู่ โดยนัดหมายกันที่สามแยกใกล้เรือนจำ ตนก็ถามว่าไปทำไมที่นั่น เพราะเป็นแหล่งคนพลุกพล่าน คนอื่นเห็นจะไม่ดี มันเปิดเผย ถ้าจะนัดกันก็ต้องไปในห้องซึ่งเป็นที่ลับตาคน ต่อมาคนชื่อ จ. ใช้หนูไปส่งเพื่อนที่จะให้บริการที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใกล้กับโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง แต่เมื่อนำเด็กไปส่งก็พบว่าลูกค้าที่จะใช้บริการ ไม่ได้เป็นคนสูงอายุ ตามที่กล่าวอ้างว่าเป็นผู้ใหญ่ในภาค 5 และรู้สึกว่าลูกค้าน่าจะเป็นสายล่อของตำรวจเพราะว่าคุ้นๆหน้า

หลังส่งเด็กเสร็จ ตนก็กลับ และโทร.หาเพื่อนที่ชื่อ จ.เพื่อขอเงินค่าตัว จำนวน 2,500 บาท เพื่อที่จะเก็บไว้ให้เด็กที่ไปบริการทางเพศ แต่ไม่สามารถติดต่อ ได้ ต่อมาสักพัก เพื่อนที่ชื่อ จ. ได้โทร.มา บอกว่ารออยู่ที่แยกเรือนจำเพื่อนำเงินค่าตัวเด็กมาให้ ตนก็รอเพื่ออยู่ตรงจุดนัดพบตั้งนานเพื่อนก็ไม่มา สักพักก็ถูกชาร์ทจับกุมตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ นายตำรวจคนหนึ่งชื่อ ‘น.' และถูกควบคุมตัวไปที่สนามยิงปืน และถูกยึดโทรศัพท์มือถือไม่ให้ติดต่อกับใครเลย

‘หนูพบว่าการจับกุมดังกล่าว แทนที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปโรงพัก แต่กลับนำตัวไปควบคุมที่สนามยิงปืน เมื่อไปถึงสนามยิงปืน พบสายของตำรวจ ชื่อ อ. อยู่กับเจ้าหน้าตำรวจ และเสมือนเป็นคนวางแผนทั้งหมดในการล่อซื้อการค้าประเวณี และตำรวจมีท่าทางเกรงกลัวมาก โดยหนูถูกกักตัวไว้ที่สนามยิงปืนตั้งแต่ 21.00 น.ไปจนถึงเวลา 04.00 น. จึงได้มีการควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาเงินมาวางบนโต๊ะ บอกว่าขอความร่วมมือหน่อย แล้วให้หนูยืนชี้เงินและถ่ายรูปไว้ ทั้งที่การค้าประเวณี ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินมาก่อนเลย อีกประการหนึ่งคือทางตำรวจมีการยึดโทรศัพท์มือถือและบังคับไม่ให้ติดต่อกับใคร ทั้งที่หนูมาถึงโรงพักแล้ว และต้องการติดต่อกับพ่อกับแม่ให้มาช่วยเหลือ' น.ส.เค กล่าว

น.ส.เค กล่าวด้วยว่า หลังจากคดีเสร็จสิ้น ตนถึงรู้ว่าในการที่ถูกจับกุมดังกล่าวเป็นเพียงเกมที่เจ้าหน้าที่ต้องการโยงเรื่องไปถึง ‘ดาบตำรวจ' คนดัง เพื่อต้องการให้เรื่องสอดคล้องกับการบีบบังคับเด็กให้ค้าประเวณี เพื่อให้กลายเป็นขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อเอาผิดดาบตำรวจคนดังกล่าว ซึ่งตนก็รู้จักดาบคนดังกล่าวเช่นกัน แต่ไม่เคยได้ข่าวเรื่องการบีบบังคับเด็กให้ค้าประเวณีแต่อย่างใด

‘สำหรับการค้าประเวณีในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ส่วนใหญ่เด็กจะยินยอมและสมัครใจเอง ไม่มีการบังคับหรือขู่เข็ญ เนื่องจากทุกคนที่เข้าวงการมีฐานะยากจน ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง อีกประการหนึ่งแขกที่มาใช้บริการจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นข้าราชการระดับสูงทั้งสิ้น เด็กสาวที่เข้าสู่วงการ ล่าสุดมีถึงเด็กนักเรียนระดับมัธยมของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง , เด็กสาวที่เรียนอาชีวะ , เด็กที่เรียนสถาบันระดับอุดมศึกษาในพื้นที่ และเด็กที่เป็นต่างด้าว ยังไม่มีบัตรประชาชนไทย' น.ส.เค กล่าว

น.ส.เค กล่าวอีกว่า ส่วนใหญ่เด็กสาวที่กล่าวมาข้างต้นจะรู้ว่ามีร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในเมืองแม่ฮ่องสอน รับเป็นธุระจัดหาแขกให้ จึงพากันไปติดต่อเพื่อขอรับรับงานเอง บางคนเมื่อรับงานหลายครั้งจนรู้จักกับแขกเพิ่มมากขึ้น ก็จะไม่กลับไปพึ่งแม่เล้าอีกต่อไป และจะรับงานโดยตรงกับแขกชั้นผู้ใหญ่ และเพื่อนๆของแขกชั้นผู้ใหญ่ที่บอกต่อๆกันไป

‘ในส่วนของตำรวจเนื่องจากเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองเล็กๆ เมื่อมีนายมาตรวจราชการ ก็จะไปหาเด็ก และขอให้ไปรับแขกให้นาย ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะไม่กล้าปฏิเสธ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเรื่องการค้าประเวณี ตนอยากให้ทางหน่วยงานภาครัฐจากส่วนกลางลงมาดูแลและแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด และไม่อยากให้วงจรดังกล่าวขยายเพิ่มมากขึ้นอีกต่อไป' น.ส.เค กล่าวทิ้งท้าย

อดีตเด็กสาวที่เคยค้าประเวณี(ขอสงวนนาม) ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจกับผู้สื่อข่าวถึงขบวนการค้ากามในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอนว่า ในห้วง 2 - 3 ปี ที่ผ่านมา การค้าประเวณีจะรุ่งเรืองมาก และเด็กที่ขายบริการจะมีไม่ต่ำกว่า 30 คน ซึ่งเด็กเหล่านั้นจะวนเวียนคอยรองรับให้บริการแก่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เดินทางมาตรวจราชการ โดยเฉพาะฤดูหนาวช่วง"ไฮซีซั่น" จะมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายกระทรวงพากันเดินทางมาตรวจงานราชการ แต่แท้ที่จริงมาเพื่อเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดมากกว่า ส่วนเรื่องตรวจงานราชการเป็นเรื่องรอง

"ในการเดินทางมาตรวจราชการในครั้งนี้ มันจะมีธรรมเนียมอยู่แล้วว่า เมื่อมาถึงแม่ฮ่องสอน ต้องถึงแม่ฮ่องสอน โดยพุ่งไปที่การรับประทานขนมหวาน เป็นอันดับแรก จึงมีการวิ่งจัดหาเด็กสาวไปบริการให้แก่ข้าราชการเหล่านั้น และรวมถึงผู้ติดตามด้วย"

อดีตเด็กสาวที่เคยค้าประเวณี ระบุต่อไปว่า หากจะมีการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะแม่เล้า และรวมไปถึงเด็กสาวที่ร่วมบริการอย่างตรงไปตรงมาไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น คิดว่าข้าราชการระดับสูงและระดับกลางๆ "บางราย" ที่เดินทางมารับตำแหน่งในแม่ฮ่องสอน และที่เดินทางมาตรวจราชการในจังหวัดแม่ฮ่องสอนร้อยละ 90 จะต้องเคยใช้บริการทางเพศกับเด็กสาวที่ค้าประเวณีทั้งสิ้น

"จึงมีทางเป็นไปได้ที่จะมีการพยายามช่วยเหลือกัน แต่ในเรื่องจะมีการใช้เงินมาปิดปากแม่เล้า และเด็กสาวขายบริการว่าไม่ต้องเอ่ยชื่อ หรือให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนใดบ้างที่มาใช้บริการ เพื่อปกป้องไม่ให้ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เหล่านั้น เสียชื่อและอนาคตจนต้อง ออกจากราชการ เรื่องดังกล่าว ไม่สามารถล้วงลึกไปถึงตรงนั้นได้ เพราะเป็นการตกลงกันระหว่างคนสองกลุ่มเท่านั้น" อดีตสาวค้ากาม ให้ข้อสังเกตุ