กลายเป็นคำถามที่พุ่งตรงไปหากองทัพถึงวิธีการที่ใช้ลงโทษทหาร เมื่อล่าสุดผลสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ พลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม ทหารเกณฑ์ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดสุราษฎร์ธานีจากฝ่ายตำรวจ สรุปว่า ก่อนเสียชีวิตทหารเกณฑ์คนนี้ ถูกทรมานด้วยวิธีสุดโหดสารพัด และคนที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ในฐานะผู้สั่งการ คือ ผู้ช่วยผู้บังคับการเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 45
ผลสอบนี้เป็นเนื้อหาในบันทึกการแจ้งข้อเท็จจริงและรับทราบข้อกล่าวหาของสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี เนื้อหาสำคัญได้เอ่ยถึง เหตุการณ์ที่นำพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียมไปนอนตากแดด ด้วยการนำผ้าห่มคลุมร่างกายมิดชิด ตามภาพที่ปรากฎก่อนหน้านี้ว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2556 และเป็นไปตามคำสั่งของร้อยโทธิติกานต์ เวชสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้บังคับการเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 45 ที่ไม่ยอมนำตัวพลทหารยุทธกินันท์ ส่งโรงพยาบาล ทั้งที่ในเวลานั้น พลทหารยุทธกินันท์ถูกซ้อมและทรมานด้วยวิธีการสารพัดมาแล้ว 2 วันเต็ม และอยู่ในสภาพที่ไม่ควรถูกทรมานต่อ
วิธีที่ใช้ซ้อมทรมานก่อนจะนำตัวพลทหารยุทธกินันท์มาตากแดด ถูกอธิบายไว้อย่างละเอียดในผลสอบชุดนี้ ไล่เรียงตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม พลทหารยุทธกินันท์ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ในเวลา 10.00น. และเวลาราว 12.40น. ร้อยโทฐิติกานต์เรียกพลทหารยุทธกินันท์เข้าไปพบในห้อง หลังออกจากห้องพลทหารยุทธกินันท์มีบาดแผลถูกตีด้วยไม้ไผ่ 2 แผล และถูกนำตัวไปใส่โซ่ตรวน นั่นหมายความ หากความผิดของพลยุทธกินันท์ เกิดจากความไม่พอใจของนักโทษที่อยู่ร่วมกัน จะต้องเกิดขึ้นภายในกว่า 2 ชั่วโมงนี้
จากนั้นเวลา 01.15น. ของวันที่ 28 มีนาคม พลทหารยุทธกินันท์ถูกซ้อมโดยสิบเวร คือ สิบเอกสุรเชษฐ พรหมมาศ กับพวกคือผู้ต้องขังในเรือนจำ พร้อมถอดเสื้อและกางเกงของพลทหารยุทธกินันท์ และใช้เสื้อกับสิ่งของที่คาดว่าเป็นกางและผ้าขาวม้า ผูกคอผู้ตายติดกับคานลูกกรง ดึงขึ้นลง และยังใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วเจาะรูขนาดเล็กคลุมศีรษะผู้ตาย 1 นาที เพื่อให้ผู้ตายหายใจแบบทรมาน ก่อนจะหยุดซ้อมเวลา 02.00น. แต่ยังมัดผู้ตายติดกับลูกกรง
จากนั้นต่อมาอีก 20 นาที ในเวลา 02.20น. สิบเอกสุรเชษฐ กับ ผู้ช่วยสิบเวรคือ พลทหารภูวเดช ธนายุทธภูมิ และผู้ต้องขังในเรือนจำ กลับมารุมทำร้ายผู้ตายอีก และได้ใช้เหล็กตีระฆังบอกเวลาตีศีรษะผู้ตายแบบย้ำๆ จากนั้นใช้ผ้าขาวม้าผูกขาผู้ตายและนำตัวไปแขวนบนขื่อลูกกงในลักษณหัวห้อยลง จนถึงเวลา 06.00น. จึงปลดตัวผู้ตายลง
ต่อมาในเวลา 08.40น. ร้อยโทฐิติกานต์กลับเข้ามาทำงาน เห็นผู้ตายอยู่ในสภาพนอนฟุบและมีบาดแผลเต็มร่างกาย กลับไม่ทำรายงานส่งตัวพลทหารยุทธกินันท์ไปโรงพยาบาล แต่สั่งให้ผู้ช่วยสิบเวรพยุงผู้ตายขึ้นและใช้ไม้ไผ่ตีอีก 2 ครั้ง ก่อนให้กินยาดำ และสั่งให้นำตัวผู้ตายไปคลุมผ้าตาดแดด ถ่ายภาพ ก่อนจะทำเช่นเดียวกันกับผู้ตายอีกครั้งในวันต่อมา คือ 29 มีนาคม ด้วย จนกระทั่งผู้ตายมีอาการหนักมาก จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิต จากภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย ภาวะเลือกเป็นกรดและไตวาย ตามที่ปรากฎเป็นข่าว
โดยนายทหารที่มีชื่อปรากฎว่าเป็นผู้สั่งการและรุมทำร้ายพลทหารยุทธกินันท์ ได้เซ็นต์รับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งผู้เสียหายทุกคนปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เมื่อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไปยัง พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ก็ได้ปฏิเสธที่ให้ข้อมูลในเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างสอบสวน และยืนยันว่า เอกสารที่หลุดมานี้ ไม่ได้มาจากตัวเอง เพราะตามขั้นตอนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยจะขอให้สัมภาษณ์เรื่องนี้อีกครั้งในขั้นตอนสรุป ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย