จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ต่างพากันโพสต์ข้อความล่าตัวลูกสาวใช้มีปอกผลไม้จ้วงแทงแม่ป่วยทางจิต เป็นโรคอัลไซเมอร์ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 เม.ย. เวลา 21.00 น. ขณะที่อาสากู้ภัยฉะเชิงเทราเข้าไปตรวจสอบภายในห้องเช่า หมู่ 1 ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา พบร่าง นางโอ้ เสริมสุข อายุ 55 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องโดยมีร่องรอยการถูกทำร้าย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ร.ต.อ.เสถียรพงษ์ อ่อนศรีทอง รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านโพธิ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ภายหลังหลานสาวผู้ตายให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือ นางโสพิศ เสริมสุข อายุ 39 ปี (แม่) อาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุหลานสาวได้เข้ามาดูแลยายที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ก่อนจะกลับไปที่ห้องเช่าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงตามปกติ ขณะที่ นางโสพิศ กำลังดื่มสุราอยู่กับเพื่อนชายด้านนอกก่อนที่เพื่อนชายจะกลับไป จนเวลาประมาณ 20.00 น. นางโสพิศ ให้นายจ้างโทรมาบอกลูกสาวว่าผู้ตายมีอาการป่วยหนัก เมื่อไปถึงในห้องพบว่าผู้ตายนอนจมกองเลือด บริเวณคอถูกแทงด้วยมีดปอกผลไม้และไม่พบ นางโสพิศ และเพื่อนชายแต่อย่างใด สอดคล้องกับคำให้การของเพื่อนบ้านว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะเห็น นางโสพิศ ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปหลังสิ้นเสียง
เบื้องต้นจากสันนิษฐานคาดว่า นางโสพิศ น่าจะเข้ามาก่อเหตุตอนผู้ตายหลับ ก่อนใช้อาวุธมีดแทงเข้าหน้าอกสองครั้งทำให้เสียชีวิต พร้อมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายในเบื้องต้น และจะรอผลชันสูตรอีกครั้งว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวหรือโดนมีดแทง ซึ่งหากเป็นอย่างหลังจะแจ้งข้อเจตนาฆ่าบุพการีทันที จากคำให้การของลูกสาวผู้ก่อเหตุทราบว่าเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุได้บอกว่าจะฆ่าแม่ตัวเองให้ตาย และจะฆ่าตัวเองตายตาม ลูกสาวจึงต้องการให้แม่มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะไม่อยากกำพร้าแม่ไปอีกคน
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในขั้นตอนการติดตามสัญญาณจากเครื่องโทรศัพท์มือถือ แต่ยังมีพิรุจว่านายจ้างมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำครั้งนี้หรือไม่ เพราะเมื่อคืนวันเกิดเหตุได้เรียกนายจ้างมาสอบปากคำโดยขอตรวจสอบประวัติการโทรเข้าและจะติดตามความเคลื่อนไหวของนางโสพิศผ่านทางโทรศัพท์ แต่นายจ้างปฏิเสธพร้อมอ้างว่าภรรยาของตนได้เผลอลบประวัติการโทรไปหมดแล้ว