นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาปรับเงื่อนไขโครงการและคุณสมบัติผู้ที่ต้องการเข้าโครงการบ้านประชารัฐ ธนารักษ์ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเร็วๆ นี้ โดยจะให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเพียงเรื่องเดียว คือ บ้านหลังแรก จากเดิมกำหนดให้ต้องเป็นบ้านหลังแรกเท่านั้น จะมีการปรับใหม่เป็นไม่จำเป็นต้องเป็นบ้านหลังแรก เพื่อเปิดกว้างให้คนที่เคยมีบ้านหลังแรก แต่ปัจจุบันไม่มีชื่อครอบครองกรรมสิทธิ์แล้วสามารถเข้าโครงการนี้ได้ด้วย
สำหรับเรื่องเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำยังกำหนดไว้เท่าเดิมคือ ผู้กู้ต้องมีรายได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาท/เดือน เพื่อให้โครงการนี้สามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้ได้มีโอกาสมีบ้านเป็นของตัวเอง
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวต่ออีกว่า ธนารักษ์เตรียมเปิดโครงการบ้านประชารัฐ เฟส 2 ใน 3 พื้นที่ ประกอบด้วย ที่กรุงเทพฯ บริเวณถนนพระราม 3 คลองเตย มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ที่ จ.เชียงใหม่ ใกล้ศูนย์ประชุมเชียงใหม่ และที่ จ.ปทุมธานี บริเวณลำลูกกา เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสร้างที่อยู่อาศัยในลักษณะของแนวตั้งหรือเป็นห้องชุด คาดว่าทั้ง 3 โครงการ จะสร้างบ้านเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางเข้ามาอยู่อาศัยได้ราว 2,000 ยูนิต
ขณะที่โครงการบ้านประชารัฐ ธนารักษ์ เฟสแรก ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 แปลง คือ บริเวณวัดไผ่ตัน และที่ดินบริเวณซอยพหลโยธิน 11 รวมทั้งที่ดินใน จ.เพชรบุรี ที่มีการพิจารณาคัดเลือกผู้ที่ผ่านคุณสมบัติได้ส่วนหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อ ครม.พิจารณาเรื่องปรับเกณฑ์คุณสมบัติผู้ร่วมโครงการแล้ว จะทำให้มีผู้ที่ผ่านการพิจารณาขอสินเชื่อได้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังเตรียมเสนอ ครม. เพื่อขอทำโครงการซีเนียร์คอมเพล็กซ์ ร่วมกับ โรงพยาบาลรามาธิบดี คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี เพื่อ รองรับผู้สูงอายุให้มีที่พักอาศัยยามเจ็บป่วยได้