6 เม.ย. ที่วัดเถลิงกิตติยาราม ม.3 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ญาติได้มีการนำศพนายสุริยา ศุภรักษ์ อายุ 47 ปี อยู่ ม.3 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ นักโทษในคดีอาญาจากเรือนจำตะกั่วป่า จ.พังงา มาบำเพ็ญกุศลศพหลังจากได้เสียชีวิตมาจากเรือนจำดังกล่าว ทั้งนี้นายสุริยา ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เม.ย.60 ภายเรือนจำ โดยทางเรือนจำตะกั่วป่าได้แจ้งกับญาติว่าทำงานจนเป็นลมเสียชีวิต
ต่อมาทางญาติได้เดินทางไปร่วมทำการชันสูตรและส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิเวชแล้วพบว่านายสุริยา มีร่องรอยบาดแผลร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ทำให้ญาติไม่ปักใจเชื่อว่านายสุริยา เป็นลมตายเอง แต่เชื่อถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายขณะถูกจองจำอยู่ในเรือนจำตะกั่วป่าเสียชีวิตอย่างทรมาน หลังจากรับศพมาแล้วจึงร้องเรียนผู้สื่อข่าว และจะไม่มีการฌาปนกิจศพ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
นายวีรยุทธ ศุภรักษ์ อายุ 48 ปี พี่ชายของนายสุริยา ผู้ตายกล่าวว่า นายสุริยา น้องชายถูกจับกุมคดียาเสพติดที่ จ.กระบี่ และถูกย้ายไปจองจำอยู่ที่เรือนจำตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อ 4 ปีก่อน และเหลือเพียง 1 ปีจะพ้นโทษแล้ว เชื่อว่าถูกทำร้ายจนเสียชีวิตภายในเรือนจำดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าน้องชายเป็นลมเสียชีวิต ศพถูกนำไปที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า แต่เมื่อไปชันสูตรศพพบว่าร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลบอบช้ำ
"ผมไม่เชื่อว่าน้องชายเป็นลมตาย จึงแจ้งพนักงานสอบสวนที่เข้ามาชันสูตรศพว่า สาเหตุการตายของนายสุริยามาจากเป็นการฆาตกรรม ต่อมาทางตำรวจส่งศพไปชันสูตรที่ศูนย์นิติเวช จ.สุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าผลการพิสูจน์ศพ แพทย์แจ้งว่า บอบช้ำอย่างหนัก ซี่โครงหัก 3 ซี่ ตับแตก สมองบวม ร่างกายมีแผลถลอก การบอบช้ำเกิดจากของแข็งไม่มีคม ทำให้เชื่อได้ว่านายสุริยา ถูกทำร้ายอย่างรุนแรงจนเสียชีวิต" นายวีรยุทธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายบุญยืน ศุภรักษ์ อายุ 74 ปี บิดาของนายสุริยา ผู้ตายและญาติพี่น้อง ได้หารือกันและยืนยันว่าจะไม่มีการเผาศพนายสุริยา จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม โดยขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับการตายของนายสุริยาทุกคนถูกดำเนินคดีและรับโทษตามกฎหมาย โดยเชื่อว่าผู้กระทำมีมากกว่า 2 คน ซึ่งหลังจากพิธีศพครบตามกำหนดแล้วจะนำเรื่องเข้าร้องเรียนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
