"บิ๊กตู่" สั่งสอบเหตุเจ้าหน้าที่จับตาย "ชัยภูมิ" เยาวชนลาหู่ นักกิจกรรมทางสังคม ยืนยันว่ากันไปตามพยานหลักฐานขณะที่ 33 องค์กรชนเผ่า แถลงขอความเป็นธรรม โวยกระทำเกินกว่าเหตุ ย้ำผู้ตายเป็นเด็กเรียบร้อย เรียนดี ทุ่มเททำกิจกรรมเพื่อผู้ด้อยโอกาส จี้ กก.สิทธิฯ สอบข้อเท็จจริง พร้อมคุ้มครองเพื่อนผู้ตายที่ถูกจับด้วย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เผยก่อนหน้านี้ จนท.ด่านเดียวกันนี้ ก็เพิ่งวิสามัญฯ ชาวเขา ให้เหตุผลขัดขวางจับกุม ขว้างระเบิดใส่ เหมือนกับคดีเด็กลาหู่ ส่วนฮิวแมนไรต์วอตช์ แอมเนสตี้ฯ ก็ร่วมแถลงจี้ทางการไทยเร่งคลี่คลายคดี
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย(คชท.) อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ตัวแทนองค์กรภาคีและเครือข่ายที่ทำงานด้านการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมือง รวมทั้งเครือข่ายด้านเด็กเยาวชนและสตรี รวม 33 องค์กร ร่วมออกแถลงการณ์กรณีทหารวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมทางสังคม และประธานเครือข่ายเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา บริเวณด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยระบุว่าตรวจพบยาเสพติดในรถที่นายชัยภูมินั่งมากับเพื่อนที่เป็นคนขับ และนายชัยภูมิมีพฤติกรรมหลบหนี รวมทั้งต่อสู้ขัดขืนโดยมีอาวุธ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิสามัญฆาตกรรม
แถลงการณ์ระบุว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความอาลัยและสะเทือนใจให้กับเพื่อนนักกิจกรรมทางสังคม เครือข่ายเด็กและเยาวชน ภาคีหน่วยงานรัฐและองค์กรที่ทำงานปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากนายชัยภูมิซึ่งมีเชื้อสายลาหู่เป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ชอบความรุนแรง มีความเสียสละทุ่มเททำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม เรียนดี ต่อสู้เรียกร้องสิทธิและสถานะให้กับผู้ด้อยโอกาสในสังคม เหตุการณ์ที่ทหารวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิซึ่งยังเป็นเยาวชนนั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่กระทำเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีกฎหมายคุ้มครองเด็กหลายฉบับ
แถลงการณ์ระบุต่อว่า จึงขอแสดงท่าทีและข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ประณามการกระทำที่เจ้าหน้าที่ว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม 2.ขอเรียกร้องต่อพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้อย่างเร่งด่วน และ 3.ขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน มีมาตรการและกลไกในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์นี้ และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตและญาติผู้ตาย รวมทั้งเพื่อนผู้ตายที่ถูกจับกุมคุมขังในเวลานี้ด้วย
ขณะเดียวกัน มูลนิธิผสานวัฒนธรรมร่วมออกแถลงการณ์ว่า ขอให้นำคนผิดมาลงโทษเยียวยาผู้เสียหายกรณีวิสามัญฯ นายชัยภูมิ และคุ้มครองพยานในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมูลนิธิผสานวัฒนธรรมมีความห่วงกังวลในการสืบสวนสอบสวนกรณี ดังกล่าว จึงขอเรียกร้องดังนี้ 1.ขอให้ทางราชการชันสูตรพลิกศพ และไต่สวนการตายให้ได้สาเหตุการเสียชีวิต ว่าใครเป็นผู้ทำให้เกิดการเสียชีวิตโดยเร่งด่วนและรอบคอบ และขอให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนในระดับจังหวัดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่รอบด้านและเป็นจริง และคณะกรรมการต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชน
แถลงการณ์ระบุต่อว่า 2.การสืบสวนสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าวต้องคำนึงถึงการคุ้มครองพยาน และการให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาด้วยความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นคดีที่เป็นที่สนใจของสาธารณชน และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อกลุ่มเปราะบางที่เป็นชนเผ่าพื้นเมือง และนำผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยไม่ละเว้น ดังนั้น จึงขอให้ย้ายเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่โดยด่วน 3.ขอให้รับประกันว่าการดำเนินคดีต่อนายพงศนัย ผู้ต้องสงสัยกรณีที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าตรวจพบยาเสพติดจำนวนหนึ่งในรถยนต์ที่ตรวจค้น มีความเป็นธรรม อีกทั้งจะต้องคุ้มครองพยานและรับประกันความปลอดภัยต่อนายพงศนัยในขณะถูกควบคุมตัวด้วย
ตอนท้ายแถลงการณ์ระบุว่า 4.มีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2560 เกิดเหตุวิสามัญฯ นาย อาเบ แซ่หมู่ อายุ 32 ปี โดยทหารในเขตพื้นที่รับผิดชอบของร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้อ้างข้อเท็จจริง และเหตุผลในลักษณะเดียวกันว่า ได้ตรวจยาเสพติด และในระหว่างติดตามจับกุมนายอาเบที่พยายามหลบหนี นายอาเบขัดขวางการจับกุม และพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ด้วยการขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงขอเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนาย อาเบถึงพฤติกรรมและการปฏิบัติหน้าที่ในด้านการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่หน่วยนี้ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ญาติ และชุมชนของนายอาเบด้วยเช่นกัน
ขณะที่ฮิวแมนไรต์วอตช์ องค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลก ร่วมออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไทยตรวจสอบการเสียชีวิตของนายชัยภูมิโดยทันทีและอย่างโปร่งใส นอกจากนี้ ยังระบุว่านายชัยภูมิเป็นนักกิจกรรมที่มีชื่อเสียงจากค่ายเครือข่ายต้นกล้าเล็กในเขต อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมสิทธิของชนเผ่าเชื้อชาติลาหู่ และชนกลุ่มน้อยที่อ่อนแอในภาคเหนือของไทย เพื่อให้ได้สัญชาติ เข้าถึงการดูแลสุขภาพและการศึกษา อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตสารคดี และเป็นผู้ประพันธ์เพลงอีกด้วย
ด้านแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์การนิรโทษกรรมสากล แถลงการณ์เรียกร้องทางการไทยสอบสวนอย่างเป็นอิสระ และเห็นผลต่อกรณีวิสามัญฯ นายชัยภูมิ หากพบว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียชีวิต ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในศาลพลเรือนซึ่งได้มาตรฐานระหว่างประเทศและเป็นธรรม ที่ผ่านมานายชัยภูมิเป็นนักกิจกรรมที่มีชื่อเสียง โดยทำงานเรียกร้องสิทธิของชาวลาหู่และกลุ่มชนพื้นเมืองอื่นๆ ในไทย อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างภาพยนตร์และนักดนตรีมือสมัครเล่น มีผลงานในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิชนพื้นเมือง และกลุ่มคนไร้สัญชาติ รวมทั้งทำงานรณรงค์ต่อต้านการใช้ยาเสพติดในกลุ่มชุมชนลาหู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ได้หารือกรณีวิสามัญฯ นายชัยภูมิ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการด้านสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ที่มีนายชาติชาย สุทธิกลม เป็นประธาน ติดตามกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งหยิบยกเรื่องอายุของนายชัยภูมิว่าเท่าไหร่แน่ เพราะในบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตรเลขศูนย์ แจ้งว่าอายุ 21 ปี ขณะที่คนในครอบครัวและคนใกล้ชิดระบุว่ามีอายุเพียง 17 ปี ดังนั้น จึงต้องพิจารณาว่าควรใช้กฎหมายฉบับใดมาอ้างอิงด้วย และต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าสั่งให้ตรวจสอบในขั้นต้นแล้วว่าสาเหตุมาจากอะไร เบื้องต้นเท่าที่ทราบเป็นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ติดตามเรื่องยาเสพติด ปรากฏว่านายชัยภูมินั่งอยู่บนรถ จากนั้นตรวจค้นและพบยาเสพติดในรถ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่านายชัยภูมิที่นั่งในรถด้วยมีความเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ แต่บังเอิญว่าในช่วงเวลานั้นนายชัยภูมิวิ่งหนีออกจากรถ และเจ้าหน้าที่ให้การว่ามีการขว้างระเบิด จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธ
"เดี๋ยวผมจะให้ตรวจสอบต่อไป แต่ถ้าจะมองเพียงแค่ว่าเขาเป็นนักกิจกรรมชาติพันธุ์หรือเปล่า ถึงต้องถูกวิสามัญฯ ซึ่งคิดแบบนี้ไม่ได้ เพราะรัฐบาลไม่เคยคิดแบบนี้ เรื่องนี้ต้องให้เกิดความชัดเจน ต้องว่ากันด้วยพยานหลักฐาน ขอร้องว่าวันนี้อย่าเพิ่งพูดกันไปมา เดี๋ยวจะเสียรูปคดี ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานกันไปก่อน" นายกฯ กล่าว
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามขั้นตอน โดย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. รายงานว่า เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันตัว เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีเจตนาจะขว้างระเบิด และระเบิดก็ตกอยู่ในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อสังเกตว่าผู้เสียชีวิตยังเป็นเยาวชนอยู่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็กลัวตายเหมือนกัน
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงกรณีเรียกร้องให้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายชัยภูมิว่า ขอยืนยันว่าได้ดำเนินอยู่แล้วอย่างเปิดเผย กองทัพบกพร้อมให้ความกระจ่างและความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีเรียกร้องให้มีอัยการและฝ่ายปกครองแห่งท้องที่เป็นผู้ชันสูตรพลิกศพร่วมกับพนักงานสอบสวนและแพทย์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น ขณะนี้ก็ดำเนินการอยู่ในกรอบขั้นตอนตามกระบวนการอยู่แล้ว เป็นไปตามขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด
โฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า ส่วนข้อเรียกร้องให้รับรองความปลอดภัยนายพงศนัย แสงตะล้า ที่ถูกควบคุมตัวนั้น จากข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยืนยันจะให้การดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากได้รับความร่วมมือด้านข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับรูปคดีอย่างมาก เจ้าหน้าที่ยินดีและพร้อมสนับสนุนในการไปต่อสู้แก้ต่างได้ตามวิถีทางของกระบวนการยุติธรรม และพร้อมให้ความเป็นธรรมอย่างดีที่สุด เชื่อว่าคงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด