เมื่อวันที่ 17 มี.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ได้เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับนายตำรวจที่ดูแลคดีมือปืนยิงโหด นางสาววีรญาภา งามวิลัย หรือเปิ้ลอายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ตำแหน่งฝ่ายนโยบายและแผน (นักบริหารงานทั่วไป) ระดับ6 ของอบต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีว่า ได้ให้ฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรภาค1 และภูธรจังหวัดปทุมธานีออกติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้อีก 1 คนแล้ว ซึ่งในวันที่ 18 มี.ค.นี้เวลา 08.30 น. จะแถลงความชัดเจนทางคดีอีกครั้ง
ทั้งนี้มีรายงานการสืบสวนระบุว่า สำหรับทีมสังหาร น.ส.วีรญาภา ประกอบไปด้วย 1.นายทวีวงศ์ หรือ "นายกหมึก" ทองยืน อดีตนายกอบต.พานทอง จ.ชลบุรี, 2.นายจีระพันธ์ หรือ "โจ" เม่งกี่, 3.นายสมชาย หรือ "ฉายา อาจาร์ย" เจริญยิ่ง , 4.นายธนชัย หรือ "ใหญ่" แย้มเจริญ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. เข้าจับกุมทีมสังหารได้แล้ว 3 คน คือ นายทวีวงศ์ นายจีระพันธ์ และนายสมชาย ขาดเพียง นาธนชัย มือปืนคนเดียวเท่านั้น โดยมีสายข่าวรายงานว่า กำลังมุ่งหน้าหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาศัยช่องทาง อ.แม่สอด จ.ตาก
สำหรับการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทำให้ตำรวจมั่นใจว่าเป็นเรื่องชู้สาวนั้น เป็นเพราะก่อนหน้า มารดาของผู้เสียชีวิตได้ยืนยันว่า บุตรสาวทะเลาะกับอดีตสามีคือนายกหมึก ถึงขั้นถูกนายกหมึกเอาปืนจ่อหัว อีกทั้งมีการพบภาพกล้องวงจรปิดจับภาพนาทีสังหารเอาไว้ได้ โดยมีชาย 2 คน ลงมาจากรถคันที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะขึ้นรถกระบะอีกคันหลบหนีไป ภายหลังตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวนายกหมึกเอาไว้ได้ที่ จ.กาญจนบุรี ขณะที่นายจีระพันธ์และนายสมชาย ถูกจับได้ที่จ.ชลบุรี ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนยังพบข้อมูลอีกว่า "นายกหมึก" ได้จดทะเบียนสมรสกับ "น.ส.วีรญาภา" โดยมีการซื้อ บ้าน 1 หลัง รถยนต์ 2 คัน ต่อมานายกหมึก หมดวาระจากการเป็นนายกก็เริ่มระหองระแหงเนื่องจากเงินทองมีให้ใช้จ่ายไม่เหมือนก่อน จนกระทั้งได้มีการหย่าร้างกัน แต่หลังจากการหย่าร้างก็ยังมีการพูดคุยนัดเจอกัน และยังให่้เงินส่งเสียฝ่ายหญิงสาวพอสมควร จนกระทั่งมาทราบว่าฝ่ายหญิงสาวไปเจอรักใหม่เป็นกำนันหนุ่ม และมีการจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ทำให้นายกหมึก เกิดความแค้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุ่มเททรัพย์สินเงินทองให้ฝ่ายหญิงมาโดยตลอด จึงวางแผนฆ่าด้วยการจ้างมือปืนมายิงสังหาร
โดยวันเกิดเหตุ นายกหมึกได้ขอร้องให้น.ส.วีรญาภา ขับรถออกมาช่วยเหลือด้วยการอ้างว่า แบตเตอรี่หมด แต่พอมาถึงนายกหมึกและนายใหญ่มือปืนก็ได้เข้าไปในรถของน.ส.วีรญาภา จากนั้นก็พูดคุยตัดพ้อเรื่องจดทะเบียนสมรส ก่อนที่นายกหมึกจะเปิดประตูรถออกมา ขณะที่นายใหญ่ลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยม ทั้งนี้รายงานการสืบสวนยังระบุด้วยว่าหลังจากน.ส.วีรญาภา ถุกฆ่าแล้วทางนายกหมึกคิดจะฆ่าตัวตายตาม แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ สุดท้ายทั้งสองจึงขึ้นรถยนต์กระบะอีกคันหลบหนีมุ่งหน้าไปทางจ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างทางนายใหญ่ได้แยกลงไปขึ้นอีกขั้นหนึ่งที่มาจอดคอย ส่วนนายกหมึกได้ไปเปลี่ยนรถที่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะหลบหนีไปกบดานที่บ้านน้องชายที่จ.กาญจนบุรี กระทั่งมาถูกจับกุม
ในส่วนของการจ้างวาน เริ่มจากนายกหมึกไปจ้างวาน นายจีระพันธ์ หรือ "โจ" ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าให้หามือปืนมายิงสังหารอดีตแฟนสาว ซึ่งนายโจ้ติดต่อไปยัง นายสมชาย เป็นผู้มารับงาน ในราคา 200,000 บาท ก่อนนายสมชายจะว่าจ้างให้นายใหญ่ มารับหน้าที่เป็นมือปืนในการสังหารครั้งนี้ โดยมีการจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับนายใหญ่ไปจำนวน 3 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายให้หลังเสร็จงาน
อย่างไรก็ตามการสังหารในคดีนี้ มีลักษณะการจ้างวานที่เป็นระบบตำรวจเชื่อว่าน่าจะเคยกระทำมาก่อนจึงได้สืบเสาะไปยังคดีเก่านั้นก็คือ การเสียชีวิตของนายสุภาพ เขียวชอุ่ม อายุ 35 ปี นายกอบต.บึงทองหลาง และเป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ทั้งยังเป็นอดีตสามีของ น.ส.วีรญาภาด้วย ซึ่งนายสุภาพถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไรเฟิลยิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 54 ทางตำรวจกำลังดูว่าคดีดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกันกับผู้ก่อเหตในคดีนี้หรือไม่....
Cr::dailynews.co.th/crime/562463