วันที่ 13 มี.ค. ร.ต.อ.วชิระ ประดิษฐ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในร้านค้าขายของชำ บริเวณหมู่ 6 ต.ดงประคำ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรีบรุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน เขตพื้นที่พรหมพิราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานที่เกิดเหตุ
สำหรับจุดที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณหน้าภายในร้านขายของชำ พบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางสุดใจ สามงามเหล็ก อายุ 53 ปี เจ้าของร้านถูกอาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่บริเวณขมับฝั่งขวา 1 นัด นอนจมกองเลือดมันสมองไหลกระจายเกลื่อนพื้น ใกล้กันพบศพ นายชูชีพ ขุนกำแหง อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นมือปืน หลังก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองจนเสียชีวิต
จากการสอบสวน นางสุกัลยา อิทธิพล อายุ 30 ปี บุตรสาวของผู้เสียชีวิต ทราบว่า เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาขณะที่ นางสุดใจ แม่ของตนกำลังเปิดร้านขายของตามปกติ ระหว่างนั้นนายสมทบ ธงชัย สามีของตน ได้มานั่งกินข้าวกับหลานชายวัย 7 ขวบ ทำให้นาย ชูชีพไม่พอใจ เนื่องจากมาวุ่นวายภายในบ้าน โดยส่งเสียงโวยวายจนเกิดการทะเลาะกับนางสุดใจ พร้อมกับพูดจาข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย หลังจากนั้นได้มีแจ้งตำรวจให้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนนายชูชีพ กลัวว่าจะมีความผิด ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านที่ ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมานายชูชีพได้โทรศัพท์มาหานางสุดใจถึง 3 ครั้ง และพูดจาข่มขู่อีก ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์มาหาที่บ้านเกิดเหตุครั้ง จนมีปากเสียงทะเลาะกันอีก ก่อนจะใช้อาวุธปืนจ่อยิง นางสุดใจและใช้ปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว
จากข้อมูล พบว่า นายชูชีพ เคยต้องคดีฆ่าคนตาย หลังจากพ้นโทษและมาแต่งงานอยู่กินกับนางสุดใจประมาณ 3 ปี กระทั่งมาก่อเหตุขึ้นดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้ประกอบสำนวนในคดี ตามกฎหมายต่อไป