ศาลตัดสินจำคุก 6 ปี "พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย" รุกที่ป่า
คุมตัว พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ฟ้องศาลคดีสร้างบ้านพักบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ศาลสั่งจำคุกจุมพล มั่นหมาย 6 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพเหลือโทษจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา คุมตัวฝากขังเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวพลตำรวจเอกจุมพลฯ ไปที่ห้องพิจารณาคดีชั้น 2 ห้องพิจารณาคดี 3 อาคารศาลจังหวัดนครราชสีมา โดยมีพลตำรวจตรีพงษ์เดช พรหมมิจิตร อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางไปยังศาลาจังหวัดนครราชสีมาก่อนหน้าเล็กน้อย ในชุดสูทสีกรมท่า พร้อมทนายความ ซึ่งศาลกำลังพิจารณาไต่สวนคดีดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ โดยพลตำรวจเอกจุมพลฯ นั่งรถบรรทุกสีดำ ขาว 199 ทะเบียนตราโล่ เป็นรถควบคุมผู้ต้องหา โดยนั่งก้มหน้าศีรษะล้าน ก่อนเดินลงรถ โดยสวมชุดผู้ต้องขังสีน้ำตาล กางเกงขาสั้น สวมกุญแจมือ และสวมโซ่ตรวจที่ข้อเท้า สีหน้าเคร่งเครียด เดินก้มหน้าตลอดเวลา โดยมีกำลังตำรวจป้องกันปราบปราม สภ.เมืองฯ กว่า 30 นายตรึงกำลังอย่างเข้มงวด ทั้งแพทย์โรงพยาบาลตำรวจได้ทำการตรวจร่างกายพลตำรวจเอกจุมพลฯ พบว่าสภาพร่างกายปรกติ ทานอาหารได้ดี แต่มีความเครียดให้เห็นชัดเจน ซึ่งแพทย์จะต้องเฝ้าดูแลอาการใกล้ชิด
ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 3 ชั้น 2 อาคารศาลจังหวัดนครราชสีมา ศาลอาญาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีสร้างบ้านพักตากอากาศบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลานจำนวนกว่า 13 ไร่ ในพื้นที่ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา และถูกเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจยึดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในวันนี้โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลย 2 รายต่อศาล ประกอบด้วย พลตำรวจตรีพงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นจำเลยที่ 1 และ(พลตำรวจเอก) นายจุมพล มั่นหมาย อดีตรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคง และกิจกรรมพิเศษ และอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นจำเลยที่ 2 โดยพลตำรวจตรีพงษ์เดช พรหมมิจิตร จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอต่อสู้คดี ส่วนนายจุมพล มั่นหมาย จำเลยที่ 2 ไม่ต้องการทนายความ พร้อมให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาตามคำฟ้องของโจทก์ และไม่ขอต่อสู้คดี
โดยจำเลยที่ 1 ศาลมีคำสั่งให้โจทก์แยกฟ้อง และให้ดำเนินการฟ้องคดีเข้าไปใหม่ภายในระยะเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันนี้ (10 มี.ค. 60) ส่วนจำเลยที่ 2 ศาลมีคำพิพากษาว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 4 ปี และมีความผิดในข้อหาแผ้วถาง และบุกรุกทำลายป่า ให้ลงโทษจำเลยเป็นเวลา 2 ปี รวมลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลาทั้งหมด 6 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ จึงมีเหตุให้บรรเทาโทษ จึงให้เหลือลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมให้มีคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากพื้นที่ที่บุกรุกป่า และชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางราชการเป็นจำนวนเงินกว่า 892,000 บาท ซึ่งหลังฟังคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายจุมพลฯกลับไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.ศรีวราห์ฯ กล่าวว่า วันนี้ศาลพิจารณาพิพากษานายจุมพล มั่นหมาย ไม่ใช่พลตำรวจเอกแล้ว แต่เป็นนายจุมพล ในความผิดหลักคือบุกรุกป่า ซึ่งเป็นบทหนักสุด และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยเว้นปฏิบัติ ศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี รับสารภาพลดกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี โดยละเว้นปฏิบัติ 4 ปี พิพากษาบุกรุกป่า 2 ปี ส่วนอาคารบ้านพักตากอากาศศาลพิพากษาให้รื้อถือออกไปและให้ชดใช้ค่ายเสียหายแก่รัฐเป็นจำนวนเงินกว่า 890,000 บาท ส่งผู้ต้องหารายอื่นๆก็ต้องแล้วแต่พนักงานอัยการ พล.ต.อ.ศรีวาห์ฯกล่าว.
โดยต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. นายจุมพล มั่นหมาย ถูกควบคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนครราชสีมาออกจากศาลจังหวัดนครราชสีมาไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่สนามบินกองบิน 1 โดยมีกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมากว่า 30 นายรักษาความเรียบร้อยอย่างแน่นหนา โดยสวมชุดนักโทษกางเกงขาสั้น สวมพันธนาการ ส่วนพล.ต.ต.พงษ์เดช สวมชุดสูทสีเทา ให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดีพร้อมกับให้ทนายประกันตัวออกไป
สำหรับคดีดังกล่าวนี้มีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 7 ราย แต่ในวันนี้อัยการได้แยกการพิจารณาคดี มีการส่งฟ้องศาลก่อนจำนวน 2 ราย คือ พล.ต.อ.จุมพล และ พล.ต.ต.พงษ์เดช ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.จุมพล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่ พล.ต.ต.พงษ์เดช ให้การภาคเสธ ทั้งนี้ผู้พิพากษาได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาผ่านระบบคอนเฟอเร้นพิจารณาคดีที่ห้องพิจารณาคดีที่ 3 ชั้น 2 มีบรรดาญาติของผู้ต้องหาเดินทางมาให้กำลังใจรวมถึงผู้สื่อข่าวที่เข้าไปรับฟังการพิจารณาคดีเต็มห้อง ศาลใช้เวลาการพิจารณา นานกว่า 4 ชม.