ลงพื้นที่สำรวจบ้านฉาวคดีดัง "พล.ต.อ.จุมพล" รุกป่าทับลาน
มูลเหตุในการกระทำความผิดของ "พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย" ที่ทำให้ต้องถูกไล่ออกจากราชการ ส่วนหนึ่งมาจากการกระทำความผิดในคดีร่วมกันครอบครอง แผ้วถาง บุกรุก พื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ เนื้อที่ 13 ไร่ ในพื้นที่ตำบลไทยสามัคคี ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
"ทีมล่าความจริง" ลงพื้นที่สำรวจ บ้านพักตากอากาศหลังนี้ ซึ่งครอบครองโดยพล.ต.อ.จุมพล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) และอดีตข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคงและกิจกรรมพิเศษ ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง โดยบ้านอยู่บนพื้นที่ราบติดลำรางสาธารณะ มีรั้วรอบพื้นที่ มีทางเข้าติดกับถนนสาธารณะ ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยภายในมีสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารที่พักและอาคารอื่นๆ รวม 6 หลัง
การครอบครองพื้นที่แห่งนี้ ถูกตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้ากรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการใช้เครื่องมือตรวจวัดพิกัดจากสัญญาณดาวเทียม ก่อนพบว่า พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน และยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำอีกด้วย จึงมีการติดป้ายประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติทับลาน มีข้อความระบุใจความว่า พื้นที่บริเวณนี้คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานได้สนธิกำลังร่วมกันตรวจยึด จับกุมดำเนินคดีแล้ว เนื้อที่ 13 ไร่ 1 งาน 75 ตารางวา
ทั้งนี้ พฤติกรรมการกระทำความผิดของพล.ต.อ.จุมพล ว่า ได้ร่วมกันกับพวก บุกรุกพื้นที่ แผ้วถางป่า เพื่อก่อสร้างบ้านพักตากอากาศมานานแล้ว และเมื่อถูกจับกุมได้ พลตำรวจเอกจุมพล ก็ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง
หากย้อนไปราวปี 2524 ที่เดิมที ที่ดินผืนนี้ พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร และนางชญานิศฐ์ พิศิษฐวานิช หรือ พรหมมิจิตร ก่อนจะมอบให้ พล.ต.อ.จุมพล และเริ่มก่อสร้างบ้านพัก ปรับภูมิทัศน์ที่ดิน ในปี 2554 แต่ตามหลักฐานการถือครองที่ดิน ที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ หรือใบ ภ.บ.ท.5 มีนางชญานิศฐ์ เป็นผู้ถือครองแทน
ด้วยมูลฐานความผิดนี้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่ได้กระทำผิดวินัยฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่อยู่ใกล้ชิดพระองค์ฯ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการไปในทางที่ไม่ถูกต้อง แสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ฝักใฝ่ในเรื่องการเมืองเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ไม่เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย พฤติกรรมดังกล่าว จึงเป็นความผิดวินัยร้ายแรง สมควรรับโทษไล่ออกจากราชการ
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่พล.ต.อ.จุมพล เท่านั้นที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ แต่ยังมีผู้ร่วมกันยึดถือครอบครอง และบุกรุกพื้นที่ อีก 4 คน หนึ่งในนั้นยังเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และยังมีผู้ร่วมขบวนการหลบหนีอีก 1 คนด้วย