สาวกินยาลดอ้วนคลั่งจับลูกสาว7ขวบขังในรถ

กินยาลดอ้วนจนเพี้ยน แม่จับลูกสาววัย 7 ขวบขังในรถเก๋งคันหรู


ส่วนตัวเองพยายามวิ่งให้รถชน ตำรวจเกลี้ยกล่อมจนยอมไขรถปล่อยเด็ก แต่อาการกำเริบอีก โยนกุญแจทิ้งน้ำอาละวาดที่เกาะกลางถนน ตร.กล่อมนานนับชั่วโมงจนพามาสงบสติที่โรงพัก พอแม่มารับก็อาละวาดขว้างปารถตำรวจ จนต้องพาไปส่งโรงพยาบาลประสาท เหตุกินยาลดความอ้วนต่อเนื่องนาน กระทั่งมีผลทางประสาท

หญิงอาละวาดทำลายสิ่งของรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 สิงหาคม

พ.ต.ท.จำเนียร สะสมทรัพย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งว่า มีหญิงคลุ้มคลั่งอาละวาดบนเกาะกลางถนน และขังลูกสาวไว้ในรถจอดตากแดด ที่บริเวณหน้าวัดมูลจินดาราม ริมถนนสายรังสิต-นครนายก ต.คลองห้า อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน


เมื่อตำรวจไปถึงพบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญูกำลังช่วยกันเกลี้ยกล่อมหญิงคนดังกล่าว

ซึ่งยืนอยู่บนเกาะกลางถนนและพยายามวิ่งให้รถชน จนรถที่สัญจรผ่านไปมาต้องขับอย่างระมัดระวัง คอยหลบไม่ให้ชน การจราจรติดขัดอย่างมาก นอกจากนี้ ที่ริมถนนบริเวณหน้าวัดมูลจินดาราม พบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี สีน้ำเงิน ทะเบียน วว 6379 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ โดยปิดเครื่อง ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด ภายในรถมีเด็กหญิงอายุประมาณ 6-7 ขวบ นั่งร้องไห้ ส่งเสียงตะโกนเรียกแม่อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถออกมาได้ เพราะกุญแจรถอยู่ที่ผู้หญิงคนที่คลุ้มคลั่ง เจ้าหน้าที่จึงพยายามเกลี้ยกล่อนจนยอมเปิดประตูรถและจูงมือเด็กออกมา


หลังช่วยเด็กแล้ว หญิงคนดังกล่าวได้ขว้างกุญแจรถทิ้งลงน้ำ

จากนั้นเดินมาที่เกาะกลางถนน พูดจาเพ้อว่ามีคนจ้องจะทำร้ายและไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ไม่เช่นนั้นจะกระโดดให้รถชนตาย ตำรวจต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานนับชั่วโมง ก่อนจะบุกเข้าจับตัวไว้ได้ และช่วยเหลือเด็กหญิงที่อยู่ในสภาพขวัญเสียอย่างหนัก และจากอากาศที่ร้อนทำให้หน้าซีดเซียว เจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้าปฐมพยาบาล


หลังจากนั้นนำตัวหญิงสาวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ


เบื้องต้นทราบเพียงชื่อ  นางวัลลภา อายุ 36 ปี อยู่ ซอยสุขุมวิท 101/1 เขตบางนา กทม. ส่วนเด็กหญิงเป็นลูกสาว ต่อมา นางเกียม อายุ 65 ปี แม่ของนางวัลลภา เดินทางมาที่สถานีตำรวจ ซึ่งพอนางวัลลภาเห็นนางเกียม ก็ถามถึงนายวรวิทย์ สามีว่ามาด้วยกันหรือไม่

เมื่อนางเกียมบอกว่ากำลังเดินทางมา นางวัลลภาก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นอีก อาละวาดทำลายข้าวของภายในโรงพัก จากนั้นวิ่งไปคว้าก้อนหินขว้างใส่รถกระบะตราโล่ของตำรวจ จนกระจกด้านหลังแตก ตำรวจบนโรงพักจึงเข้าล็อกตัวควบคุมไว้ในห้องสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการให้ได้รับความเสียหาย


ด้านนางเกียม กล่าวว่า สาเหตุที่ลูกสาวเกิดอาการคลุ้มคลั่งน่าจะมาจากการกินยาลดความอ้วนยี่ห้อหนึ่งเป็นประจำและต่อเนื่องมานาน

จึงอาจจะทำให้เกิดอาการประสาท เพราะที่บ้านก็อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่เคยมีปัญหาเรื่องหนี้สินหรือเรื่องครอบครัวแต่อย่างใด ด้าน พ.ต.ท.จำเนียร สะสมทรัพย์ สารวัตรเวรสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งญาติรับทราบข้อกล่าวหาและยินยอมชดใช้ทุกอย่าง จากนั้นได้ปรับและลงบันทึกประวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งให้ญาติรับนางวัลลภาไปโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการทางประสาทต่อไป


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า

กรณีที่เกิดขึ้นหากยาลดความอ้วนที่กินเป็นประจำมีส่วนผสมของแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นสารเสพติดที่กระตุ้นประสาทโดยตรง อาจทำให้เกิดอาการหลอนหรือคลุ้มคลั่งได้ แต่ถ้าตัวยาลดความอ้วนที่กินเป็นประจำไม่ได้มีส่วนผสมของแอมเฟตามีน อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นประกอบด้วย เช่น ความเครียด หรืออาจจะมีรอยโรคของกลุ่มอาการทางจิตก็ได้


ผู้ที่แสดงอาการทางจิตพิจารณาจาก 3 ปัจจัย คือ

1.ใช้สารเคมีชีวภาพจำพวกสารเสพติดต่างๆ 2.สภาพจิตใจมีความผิดปกติ อาจอยู่ช่วงวิกฤติ และ 3.สังคมและสิ่งแวดล้อม อาจเป็นสิ่งกระตุ้นให้แสดงอาการทางจิตออกมา ซึ่งต้องพิจารณาทั้งสามปัจจัยประกอบกัน หากรายนี้พิสูจน์แล้วว่าใช้ยาลดความอ้วนที่มีสารแอมเฟตามีนผสมอยู่ และใช้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นก็อาจเป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้คลุ้มคลั่งได้โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์