"เฉลิมเกียรติ" นำแถลงกวาดล้างยาเสพติด 4 คดีใหญ่ ได้ผู้ต้องหา "เฉลิมเกียรติ" นำแถลงกวาดล้างยาเสพติด 4 คดีใหญ่ ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 11 ราย ยึดยาบ้าได้ 1.5 ล้านบาท โคเคนอีกร่วม 2 ก.ก. เผย 3 คดีเป็นผู้ต้องหาคนไทย ถูกจับ ขณะลักลอบขนยาบ้าส่งเอเยนต์ ส่วนคดีสุดท้ายจับกุมสาวใหญ่ชาวเอกวาดอร์ และหนุ่มรัสเซียได้คาสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะลักลอบขนโคเคนแปรสภาพใส่ครีมบำรุงผิว 7 กระปุก เผยเป็นวิธีใหม่ที่ใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ หากผ่านด่านตรวจได้ ก็จะนำไปผ่านวิธีทางวิทยาศาสตร์ คืนสภาพให้เป็นโคเคนอีกครั้ง แต่สุดท้ายไม่รอดผลการทำงานของสายลับ เตรียมขยายผลล่าตัวการใหญ่ต่อไป
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ทีฆะโชติ สุวรรณาคม ผบก.ปส. 2 พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ปส.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ 4 คดี
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการ สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ร่วมกับบก.ปส.4 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 4 รายคือ 1.นายอาแว สาแล๊ะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 7 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา 2.นายกอเส็ม เอียดขาว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 7 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง 3.น.ส.อภิญญา หมัดจันทร์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 3 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง 4.น.ส.นูรไอนี สาแหละ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 1 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส
พร้อมของกลางยาบ้า 988,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 8802 นราธิวาส อาวุธปืนพก ขนาด .45 ม.ม. 1 กระบอก กระสุน 7 นัด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จอดอยู่ในบ้านพักเลขที่ 10 หมู่ 3 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างให้เก็บพักยา ก่อนลำเลียงไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กก.2 บก.ปส.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.414 และ เจ้าหน้าที่กก.ปพ.บก.สส.ภ.8 ร่วมกันจับกุมนายสุริยันต์ แก้วศรีจันทร์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 10 ต.โพนงาม อ.หนองหาญ จ.อุดรธานี ขณะขับรถเก๋งโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฎจ 3767 กทม. เข้าด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถ.เพชรเกษม ระหว่างหลัก ก.ม.ที่ 451-452 มุ่งหน้า จ.ชุมพร พบยาบ้าห่อด้วยกระดาษและพันด้วยพลาสติก 150 ก้อน ภายในบรรจุยาบ้า 300,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณเบาะด้านหลังของรถ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดี และสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 11.00- 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ปปส. จับกุมขบวนการค้ายา เสพติดพร้อมผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย 1.นายคมกริช จันทร์ลือชัย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 374 หมู่ 12 ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร 2.นายภูสิทธิ์ ชัยบุรีโอภาส อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 7 ต.ม่วงยาย อ.ม่วงยาย จ.เชียงราย 3.นายอลงกรณ์ คงธนะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/1 หมู่ 7 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 4.นายจุลพงศ์ แซ่ลี้ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/40 ตรอกบ้านบาตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบ ศัตรูพ่าย กทม. พร้อมของกลางยาบ้า 227,400 เม็ด รถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีเทา ทะเบียน 1 กฬ 691 กทม. รถเก๋งโตโยต้า รุ่นโคโรล่า ทะเบียน 7ฐ 4627 กทม.และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถศูนย์แสดงสินค้า ไบเทคบางนา และนำตัวไปตรวจค้นที่พัก จ.นนทบุรี ซึ่งใช้เป็นที่พักยาเสพติดก่อนลำเลียงไปส่งให้กับลูกค้าตามจุดนัดพบต่างๆ ต่อไป
คดีที่ 4 จับกุม น.ส.เจนนี่ คาร์เมน เดล์ โนซิโอ อาคูญ่า ปาเซ็คโก อายุ 55 ปี ชาวเอกวาดอร์ และนายมิคาเอล ชาบานอฟ อายุ 31 ปี ชาวรัสเซีย ได้ที่ สนามบินสุวรรณภูมิและโรงแรมย่านบางนา พร้อมของกลาง โคเคน ซึ่งบรรจุในรูปลักษณะครีม บำรุงผิว 7 รายการ น้ำหนัก 2,350 กรัม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดซุกซ่อนมาในลักษณะของผลิตภัณฑ์เสริมความงาม จำพวกครีมบำรุงผิว จากประเทศเปรู มายังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อส่งต่อให้กับลูกค้าชาวรัสเซียในประเทศไทย
จึงวางกำลังเฝ้าติดตามจนพบ น.ส.เจนนี่ คาร์เมน เดล์ โนซิโอ อาคูญ่า ปาเช็คโก อายุ 55 ปี ชาวเอกวาดอร์ ลักษณะท่าทางมีพิรุธขณะตรวจกระเป๋าสัมภาระ จึงตรวจโดยละเอียดพบครีมบำรุงผิว 7 กระปุก ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งจาการตรวจสอบด้วยสารเคมีและเครื่องตรวจยาเสพติดพบว่า ครีมดังกล่าวมีส่วนผสมของโคเคน จึงได้จับกุมตัว
น.ส.เจนนี่ ได้ให้การรับสารภาพว่าขนยาเสพติดมาจากประเทศเปรูเพื่อนำมาส่งต่อให้กับนายมิคาเอล ชาบานอฟ ในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติในประเทศไทย ซึ่งวิธีการนำยาเสพติด (โคเคน) ผสมมากับเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิว ซึ่งเป็นวิธีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาด้วยวิธีการใหม่ ใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ หากดูผิวเผิน ก็คล้ายกับครีมบำรุงผิวทั่วๆ ไป หากรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ไปได้ ก็จะมีวิธีการนำไปสกัดแยกเอายาเสพติดออกมาเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าต่อไป
พล.ต.ต.วุฒิพงศ์กล่าวว่า สำหรับโคเคน เป็นยาเสพติดที่มีกลุ่มผู้นิยมในประเทศแถบอเมริกากลาง เช่น บราซิล เม็กซิโก รัสเซีย และกลุ่มผิวดำ โดยส่วนมากแก๊งยาเสพติด ส่วนใหญ่จะมีผู้อื่นซื้อตั๋วเครื่องบิน และจัดการเรื่องที่พักต่างๆ ให้ทั้งหมดและจะมีเส้นทางการ เดินทางในหลายประเทศ เพื่อทำให้ดูเหมือนกับนักท่องเที่ยว โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดดำเนินคดีและขยายผล เพื่อติดตามยึดทรัพย์ผู้ร่วมขบวนการค้ายา เสพติดต่อไป
ที่มา: ข่าวสด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
