เวลา 10.30 น. วันที่ 11 ก.พ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.ได้เดินทางมาที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อร่วมกันแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในการติดตามความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของนายรัติภูมิ พิมใจใส หรือเบิร์ด อายุ 34 ปี เซลส์แมนหนุ่มขายรถยนต์ ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2559 โดยทางญาติได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ธรรมศาลา เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2560 จากนั้นมีการติดตามกันเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 6 ก.พ. ทางเจ้าหน้าที่ได้พบศพนายรัติภูมิที่โรงพยาบาลศิริราช หลังมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิแห่งหนึ่งได้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบเนื่องจากสงสัยว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน เนื่องจากที่แขนมีรอยสักเป็นรูปดาวตรงกับคำให้การของครอบครัว โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อเวลา 20.23 น. วันที่ 20 ธ.ค.2559 ได้นำตัวนายรัติภูมิในสภาพมีอาการหมดสติส่งโรงพยาบาลศิริราช จากนั้นเวลา 08.30 น.วันที่ 30 ธ.ค.2559 นายรัติภูมิได้เสียชีวิตลง
โดยในการชี้แจงครั้งนี้มี พล.ต.ต ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น7 พ.ต.อ ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ สน .ธรรมศาลาพ.ต.อ ธนวรธน์ ตาระกา สน ตลิ่งชัน พ.ต.อ คมสันต์ แตงจุ้ย สน.บางกอกน้อย พ.ต.อ ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผกก.สส.น.7 พร้อมชุดทำงานเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ได้เข้าร่วมกันแถลงลำดับเหตุการณ์พร้อมนำสไลด์ ลำดับเหตุการณ์ชี้แจง ให้กับสื่อมวลชนได้ทราบ
โดยทางด้าน พล.ต. ต สมพงษ์ ได้เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีทีประชาชนให้ความสนใจ และทางเราต้องการตอบข้อสงสัยทุกประเด็นให้กับทางญาติและสังคมได้ทราบ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุพื้นที่ต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ พื้นที่ สนธรรมศาลา พื้นที้รับแจ้งคนหาย-รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ พื้นที่สน ตลิ่งชัน จุดที่ทางเจ้าหน้าที่ อป.พร นำ พบ นาย เบิร์ด ที่มีอาการคุ้มคลั่ง ก่อนจะนำตัว นายเบิร์ด ส่ง รพ. ศิริราช ในพื้นที่ สน.บางกอกน้อย ทั้งนี้ ทางเราได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทางญาติยังมีข้อสงสัย อยู่
คือ 1.บาดแผลที่พบใบหน้าพล .ต.สมพงษ์ เปิดเผยว่า บาดแผลที่พบใบหน้า เกิดจาก ทางอป.พร ตลิ่งชัน เข้าช่วยเหลือ ซึ่งในขณะนั้น นายเบิร์ด วิ่งไปวิ่งมาและล้มลงใบหน้าครูดกับพื้นถนน ทั้งซ้าย-ขวา และทางเจ้าหน้าที่ช่วยกันใช้น้ำเกลือเช็ดที่ใบหน้า ก่อนนำส่ง รพ.ศิริราช ส่วนทรัพย์สินที่เจอบริเวณเกาะกลางถนนจากนายเบิร์ด วิ่งไปวิ่งมาและของหล่นอยู่ที่บริเวณเกาะกลาง 2 ยาเสพติด ที่พบอยู่ในร่างกาย ของนาย เบิร์ด พบได้อย่างไร
พล.ต.ต สมพงษ์ ตอบว่า ทางเราได้สอบพยานพบว่า ผู้เสียชีวิตมีการเสพยา และมีประวัติเคยถูกจับเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2547 ในคดีเสพยาเสพติด ที่ จ.สุพรรณบุรี
และ3 .เรื่อง เพื่อนสาวคนสนิทคนหนึ่ง(น.ส มิ้ว)เข้าไป เกี่ยวข้อง กับ นายเบิร์ด ได้อย่างไร พล.ต.ต สมพงษ์ กล่าวว่า นายเบิร์ด รู้จักกับ น.ส มิ้ว กันในวงการขายรถและรู้จักกันหลายปีแล้ว ส่วนมีโลกโซเซียระบุว่า นาย เบิร์ด โดยอุ้ม จากคนมีสี นั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า เรามีภาพวงจรปิดและพยานเห็นว่า นายเบิร์ด คนตาย ไม่ได้โดนอุ้มแต่อย่างใด ซึ่งเราทำงานอย่างโปร่งใส เอาผลทุกอย่างมาประกอบกัน
ซึ่งขณะนี้เราก็รอผลตรวจของแพทย์มาประกอบ สำหรับคดีที่ผู้ตาย ได้เข้าไปลักทรัพย์ (บ้าน น.ส มิ้ว) คดีก็จะสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจาก นายเบิร์ด เป็นผู้ต้องหาได้เสียชีวิตลงและจะสรุปสำนวนได้ภายใน 30 วัน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ทาง ผกก สน.ตลิ่งชัน ได้ สั่งย้ายเจ้าหน้าที่จำนวน 5 นายระดับ สวป. หัวหน้าสายตรวจ สายตรวจรวม 5 คน ไปอยู่ฝ่ายธุรการ โดย ระดับมี พ.ต.ท พิสิษฐ์ เทียนเงิน สวป. สน. ตลิ่งชัน ไปปฎิบัติหน้าที่ฝ่ายธุรการ สน.ตลิ่งชัน สาเหตุมาจาก ทำหน้าที่บกพร่อง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ รับข้อมูล จาก อป.พร. ว่ามีเหตุชายคุ้มคลั่ง เมื่อไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ อป.พร แล้วมีเหตุจริง และจากนั้น มีการช่วยเหลือและนำส่ง สน. ตลิ่งชัน และนำตัวส่ง รพ. ศิริราช และหลังจากเกิดเหตุทางผู้บังคับบัญชา ได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับคนหายในพื้นที่ต่างๆในนครบาล นานกว่า 30 วัน กระทั่งทางเจ้าหน้ารับทราบข้อมูลจาก อป.พร. ว่ามีเหตุดังกล่าว จึงได้สั่งนายตำรวจทั้ง 5 คน ไปปฏิบัติหน้าที่ธุรการ ที่ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่