"เตือนระวัง 217 จุดทั่วกรุง-เสี่ยงภัยโจร ตร.ระบุอันตราย ขอ กทม.ติดกล้อง ส่องไฟ!" พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับ วันที่ 5 ก.พ. เผยเรื่องราวที่กทม.ร่วมกับตร.นครบาล ตรวจสอบ 217 จุดเสี่ยงทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเร่งปรับปรุงตัดต้นไม้ที่รกทึบ ติดกล้องวงจรปิด เพิ่มไฟส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชนขณะที่ พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รอง ผบช.น. ดูแลงานป้องกันปราบปราม กล่าวถึงกรณีสำรวจจุดเสี่ยงที่จะเกิดอาชญากรรมในพื้นที่กทม.ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการร่วมมือกันระหว่าง บช.น.และ กทม.ในการสำรวจจุดดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงก่อให้เกิดอาชญากรรมจำนวน 217 จุด
โดยเป็นจุดที่มีไฟส่องสว่างน้อย มีสิ่งก่อสร้างหรือมีพงหญ้าขึ้นรกร้าง มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการจี้ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือฉุดกระชากไปข้างทาง หรือแม้กระทั่งมีความเสี่ยงที่อาจก่อเหตุข่มขืนได้ เพื่อดำเนินการปรับสภาพแวดล้อม อาทิ การตัดต้นไม้ การติดไฟฟ้าส่องสว่าง การรื้อถอนอาคารร้าง การเก็บหรือทำลายวัสดุเหลือใช้ การติดตั้งหรือปรับทิศทางกล้องวงจรปิด เป็นต้น
แต่กลางดึกคืนนั้นเองชาวบ้านย่าน ก.ม.25 ริมถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. ต้องตื่นพากันออกมาดูหาที่มาของเสียงร้องของหญิงสาวที่ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนจะพบว่าเสียงดังออกมาจากพงหญ้าด้านหลังป้ายรถประจำทาง ทุกคนรู้โดยพลันว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน จึงรีบวิ่งกรูกันมาดู
ภาพที่เห็นคือชายคนหนึ่งกำลังทำร้ายร่างกายหญิงสาวในชุดพนักงานโรงงาน ทั้งพยายามฉุดกระชากตัวหญิงสาวเข้าไปในพงหญ้าหลังป้ายรถประจำทางซึ่งรกชัฏและมืดมิด
หญิงสาวดังกล่าวโชคดีรอดพ้นจากเงื้อมมือโจรหื่น มาได้ ขณะที่โจรก็ถูกชาวบ้านรุมจับตัวไว้ได้ในสภาพสะบักสะบอม
ต่อมาเวลา 00.10 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.อ.ชูเกียรติ ชาตะรูปะ รอง สวป.สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุมีคนทำร้ายร่างกายหญิงสาวจนได้รับบาดเจ็บและพยายามทำอนาจารข่มขืน บริเวณพงหญ้าใกล้ป้ายรถประจำทาง ก.ม.25 ริมถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. จึงรุดตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สน.ดอนเมืองที่เกิดเหตุบริเวณพงหญ้า พบนายศุภกร คำพล อายุ 45 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี ถูกพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวไว้ พร้อมของกลางอาวุธมีดปอกผลไม้ 2 เล่ม และไขควง น้ำมันมะกอก 1 ขวด ยาทาโรคผิวหนัง ยากันยุง และถุงยางอนามัย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.ดอนเมือง
สำหรับหญิงสาวผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งร.พ.บีแคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ทราบชื่อ น.ส.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 33 ปี พนักงานโรงงานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอ นิกส์ นิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพเสื้อผ้ามีรอยถูกแทงด้วยของมีคม และมีบาดแผลฟกช้ำบริเวณใบหน้าหลายแห่ง
สอบสวน น.ส.อ้อยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา 22.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ขณะที่ตนออกมารอรถบัส รับ-ส่งพนักงานของบริษัท เพื่อจะไปเข้างานเวรกะกลางคืน เวลา 23.00 น. ระหว่างที่ยืนรออยู่บริเวณป้ายรถประจำทางมีคนร้ายเข้ามาเอามีดจี้และล็อกคอตนจากด้านหลัง ก่อนที่จะพยายามลากตนลงไปที่พงหญ้าหลังป้ายรถเมล์
ระหว่างนั้นตนพยายามต่อสู้จนถูกคนร้ายต่อยเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง คนร้ายพยายามเอาอาวุธมีดแทงตน แต่โชคดีที่แค่เฉี่ยวถูกเสื้อที่สวมใส่ ระหว่างนั้นตนจึงตะโกนร้องส่งเสียงเพื่อขอความช่วยเหลือ จนมีชาวบ้านใกล้ๆ บริเวณดังกล่าววิ่งมาช่วยเหลือและจับคนร้ายไว้ได้
จากการสอบสวนนายศุภกรซึ่งอยู่ในอาการเมา พูดจาวกวน ให้การว่าตนเป็นคนงานก่อสร้าง แต่ช่วงนี้ตกงานจึงเครียดดื่มสุราเข้าไป เมื่อผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นเหยื่อหน้าตาดียืนอยู่คนเดียวจึงเกิดอารมณ์พยายามเข้าไปหมายจะขืนใจ แต่ไม่สำเร็จ ถูกชาวบ้านเข้ามาจับกุมไว้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดี 3 ข้อหา กระทำอนาจาร, ทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
