กรณีนายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ อายุ 50 ปี อาชีพวิศวกร ใช้อาวุธปืนยิงนายนวพล ผึ่งผาย หรือปอน นักเรียนชั้นม.4 เสียชีวิต โดยสืบเนื่องจากเหตุการณ์ทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกันเรื่องจอดรถกีดขวางทางกัน แล้วฝ่ายผู้ตายจอดรถตู้ขวาง ก่อนพากันลงมาหานายสุเทพกับครอบครัวที่อยู่ในรถ จนกระทั่งถูกนายสุเทพใช้อาวุธปืนยิงใส่เสียชีวิต จากเรื่องดังกล่าวกล้องหน้ารถนายสุเทพบันทึกเหตุเหตุ การณ์ไว้ได้ และนำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสที่ออกมาในขณะนี้จะมีความกดดันอย่างไรหรือไม่
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ไม่ เพราะตนดูแล้วว่าทั้งหมด เป็นเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่คนกลับไปสนใจโซเชี่ยลต่างหาก โดยไม่ได้สนใจการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตนดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า กระแสในโซเชี่ยลมีเดียมีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างไรบ้าง เพราะมีการโพสต์คลิปวีดีโอ ก่อนที่จะเป็นหลักฐานในชั้นศาล
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ตามความคิดเห็นของตน ที่มีผลกระทบต่อกระทรวงยุติธรรมก็คือว่า จำเป็นจะต้องนำหลักฐานทั้งหมดนำสู่ศาล และก็ให้ศาลเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูก ส่วนเรื่องความเห็นในโซเชี่ยลมีเดียไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบความผิดและพฤติการกระทำความได้หรอก