วันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพ.ต.ท.ธีระ เรืองเนตร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ว่าเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 29 ม.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายลูกชายถึงบ้านพักภายในชุมชนศรีอุลัย ซอยวัดดาวดึงษาราม ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. จนได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
จากการสอบถามน.ส.เอ กล่าวว่า โดยครอบครัวตนพักอาศัยอยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าวรวมทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วยสามี นายบี (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ลูกชายคนโต น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลูกสาวคนกลาง และด.ญ.ดี (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งปกติตนและสามีประกอบอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ย่านบางลำภู ก่อนเกิดเหตุตนและสามีไปขายของตามปกติ แต่จู่ๆ ตนเกิดเป็นห่วงลูกทั้ง 3 คนขึ้นมา จึงขอตัวกลับบ้านพักเพียงลำพัง เมื่อมาถึงบริเวณกลางซอยในช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 29 ม.ค. พบลูกสาวทั้ง 2 คน ยืนตัวสั่นอยู่จึงเข้าไปสอบถามว่าออกมาทำไม แล้วพี่ชายไปไหน
"ซึ่งน.ส.ซี ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. พี่ชายไปมีเรื่องบาดหมางกับเพื่อนภายในวัดดาวดึงษาราม จากนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. ได้เดินทางกลับเข้ามาบ้านพัก เมื่อผ่านไปได้สักระยะ ขณะที่น.ส.ซี กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่มีกลุ่มชายฉกรรจ์ถือท่อนเหล็กขี่รถจักรยานยนต์และซ้อนท้ายมาอยู่ที่หน้าบ้านรวม 5 คน หนึ่งในนั้นคือ "เน วัดดาว" ก่อนในกลุ่มจำชื่อได้คือนายโบ๊ต ซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่ชายได้เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ประตูกระจกบานเลื่อนหน้าบ้านพร้อมทั้งเรียกชื่อพี่ชาย โดยออกอุบายว่า "เน วัดดาว" เรียกให้ออกมาหาหน่อย ซึ่งขณะนั้นเห็นท่าพี่ชายมีอาการไม่ดียืนตัวสั่นคล้ายเกิดความกลัวจึงตัดสินใจปิดเอื้อมมือไปปิดประตูเหล็กเลื่อนลงมาแต่จู่ๆ นายโบ๊ต กลับใช้ท่อนเหล็กตีประตูกระจกบานเลื่อนจนแตกร้าวทั้งบานก่อนกลุ่มชายฉกรรจ์จะวิ่งกรูเข้ามาใช้ก้อนหินกระหน่ำปาประตูกระจกบานเลื่อนจนแตกละเอียดก่อนหนึ่งในกลุ่มจะหยิบเศษกระจกปาใส่ขาพี่ชายตนจนได้รับบาดเจ็บด้วยความตกใจตนจึงเรียกให้พี่ชายเข้าไปหลบอยู่ในห้องด้านในส่วนตนจึงพาน้องสาววิ่งหนีตายออกมาจนกระทั่งมาเจอแม่" น.ส.เอ กล่าว
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตนเป็นห่วงลูกชายมากจึงรีบเข้าไปในบ้านพบว่ามีเลือดไหลนองเต็มขาจึงคิดจะพาไปโรงพยาบาลแต่ลูกชายไม่ยอมไป จึงตัดสินใจพากันเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ทั้งนี้ลูกชายตนป่วยมีอาการทางประสาทต้องเข้ารับการรักษาตัวที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยาตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับกลุ่มวัยรุ่นภายในซอยรวม 3 ครั้ง จนเป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นยกพวกพากันมาปิดล้อมหน้าบ้าน ตนก็เคยโดนทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกัน และทุกครั้งที่เกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่แต่ทุกครั้งเรื่องก็เงียบ จนมาในครั้งนี้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายเน วัดดาว ได้โดยให้ข้อมูลว่าจะไม่ให้ประกันตัว แต่ก็ยังได้รับการประกันตัวในวันนี้ (1 ก.พ.) ด้วยวงเงิน 75,000 บาท ตนเกรงว่าทางครอบครัวจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต ทุกวันนี้บ้านหลังเกิดเหตุตนก็ไม่กล้าเข้าไปพักอาศัย ต้องพาครอบครัวมาขออาศัยอยู่ข้างนอก จึงอยากร้องทุกข์กับสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม
ด้านพ.ต.ท.ธีระ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ทางเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติออกหมายจับนายมครินทร์ พุ่มสะอาด อายุ 26 ปี หรือเนวัดดาว ในวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งทางผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามามอบตัวด้วยตนเอง โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนได้รับการประกันตัวในวันนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางยี่ขัน เร่งติดตามตัวนายโบ๊ต พร้อมทั้งกลุ่มผู้ร่วมขบวนการเพื่อมาสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีความผิดจริง เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหา "ร่วมกันบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ต่อไป
Cr::khaosod.co.th