จากกรณีนางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 52 ปี ชาวอ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ขอให้ช่วยเหลือลูกสาว คือน.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง อายุ 32 ปี ซึ่งเดินทางไปหาเพื่อนและทำงานที่ประเทศโอมาน และถูกจับติดคุกเนื่องจากพบยารักษาโรคประจำตัวจำนวนมาก และยาบางตัวมีส่วนผสมของสารตั้งต้นเสพติด หลังจากพยายามช่วยเหลือลูกแต่ติดปัญหาขั้นตอนในเรื่องประวัติการรักษา ขอให้เจ้าหน้าที่ประสานการช่วยเหลือนำตัวส่งกลับประเทศไทยโดยด่วน ตลอดเวลาทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการหาทางช่วยเหลือตามขั้นตอน
กระทั่งศาลโอมานได้พิจารณาตัดสินปล่อยตัวน.ส.รสสุคนธ์ เพื่อให้เดินทางกลับประเทศไทยแล้วในวันที่ 26 มกราคม โดยสายการบินไทย เวลา 20.40 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิในวันที่ 27 มกราคม
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ได้พาตัวน.ส.รสสุคนธ์มาพบครอบครัวที่มารับกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีนายเครือ เนียมกลาง และนางสุนทรี เนียมกลาง พ่อกับแม่และญาติน้องอีกจำนวนหนึ่ง
หลังจากน.ส.รสสุคนธ์เดินทางมาถึงห้องได้โผเข้ากอดนางสุนทรีย์ ผู้เป็นแม่ และกอดนายเครือ ผู้เป็นพ่อ ต่างร่ำไห้สะอึกสะอื้นอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่น.ส.รสสุคนธ์จะมอบพวงมาลัยให้กับพ่อแม่แล้วก้มกราบเท้า ร่ำไห้ไม่หยุด โดยทางผู้เป็นแม่ได้กล่าวปลอบโยนพูดรับขวัญลูกสาวตลอดเวลา
จากนั้นน.ส.รสสุคนธ์ กล่าวว่า เดินทางไปประเทศโอมาน เพื่อไปหาเพื่อนและไปหางานทำ แต่พอไปถึงสนามบินประเทศโอมาน ปรากฏว่าถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ทันที เนื่องจากตนนำยารักษาโรคติดตัวไปด้วย และยาบางตัวมีส่วนผสมของสารตั้งต้นเสพติด เพราะยาบางตัวเป็นยาต้องห้ามของประเทศโอมาน จึงถูกควบคุมตัวนาน 4 เดือน กระทั่งศาลที่กรุงมัสกัตตัดสินปล่อยตัวเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2560 และเดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. โดยสายการบินไทย ตนขอบคุณทุกๆฝ่ายที่ได้ช่วยเหลือกลับบ้าน ตนอยากจะบอกทุกๆคนว่า ไม่มีที่ไหนอยู่กินอิ่มนอนหลับเหมือนบ้านเรา หลังจากนี้ตนจะบวชชี 1 เดือน
นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พมจ.พิษณุโลก กล่าวว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียน จึงได้นำเรื่องปรึกษานายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก รายงานไปยังปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ในการประสานกับสถานทูตไทยที่กรุงมัสกัต เพื่อช่วยเหลือให้กลับประเทศให้เร็วที่สุด เนื่องเป็นเรื่องการพกพายาจากโรงพยาบาลพุทธชินราช เป็นยารักษาตัวที่ทางโรงพยาบาลเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด แต่เป็นตัวยาที่ต้องห้ามเข้าประเทศโอมาน โดยได้ให้ทางโรงพยาบาลทำหนังสือรับรองยา แปลเอกสารส่งไปยัง สถานทูตไทยที่โอมาน เพื่อนำเรื่องเข้าไปสู่ศาลที่กรุงมัสกัต
หลังมีการชี้แจงทางประเทศโอมานยอมรับ เหตุที่โดนควบคุมตัวเพราะว่า ไม่มีเอกสารรับรองยา และการสื่อสารค่อยข้างยาก จึงถูกควบคุมตัวต่อเนื่องมาเกือบ 4 เดือน ซึ่งน.ส.รสสุคนธ์พยายามติดต่อกลับมาททางบ้าน โดยฝากหนังสือเพื่อนๆมา แต่ครอบครัวไม่ได้รับ กระทั่งมาทราบในเฟสบุ๊คมีการส่งตัวกัน ทำให้ได้ทราบข้อมูลดังกล่าว หลังจากนี้จะพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพุทธชินราช
ต่อมานายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางมาที่ห้องประชุม พมจ.พิษณุโลก เพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบและให้กำลังใจ โดยน.ส.รสสุคนธ์ไดด้มอบพวงมาลัย เพื่อแสดงความขอบพระคุณที่ให้การช่วยเหลือตนในครั้งนี้ด้วย