จากกรณีตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้ใช้น้ำร้อนเดินสาดใส่ผู้หญิงหลายราย บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ถนนดินแดง เขตพญาไท
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่สน.ดินแดง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ท.นิรันดร์ คิดบรรจง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ วิมุกติบุตร สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย
มีชื่อว่า น.ส.สิริรัตน์ หรือหน่อย โนนทอง อายุ 41 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายศาลแขวงดุสิต ที่ จ.25/2560 ลงวันที่ 24 มกราคม 2560 ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น
การจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้เกิดขึ้นที่ใต้ทางด่วน ใกล้พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (ช้าง 3 เศียร) ต.บ้านเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ถูกจับพร้อมของกลาง ได้แก่ ท่อนเหล็กเส้นพันด้วยผ้าขนหนู ยาว 1 ฟุต ท่อนเหล็กแปปน้ำ ยาว 1 ฟุต กระติกน้ำร้อน 1 ใบ กรรไกร 1 อัน และชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ในจำนวนผู้เสียหายที่ถูกสาดน้ำร้อนนั้น รายหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หญิงของ ป.ป.ส. บาดเจ็บจนเป็นแผลพุพอง ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ม.ค.2560 ตนไม่สบายใจ เพราะเป็นห่วงประชาชนโดยเฉพาะสุภาพสตรี จึงพยายามลงมาขับเคลื่อนด้วยตนเองทุกวันถึงแม้จะเป็นคดีเล็กๆ
จนกระทั่งฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดงออกสืบจนทราบมาว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ จึงควบคุมตัวไว้ได้ และให้ผู้เสียหายดูภาพถ่ายโดยการส่งภาพให้ดู ได้รับการยืนยันว่าเป็นคนๆ เดียวกัน
ขณะที่เข้าควบคุมตัวพบว่าผู้ต้องสงสัยกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่บริเวณริมถนน จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่ให้การใดๆ ทั้งสิ้น สอบถามอะไรก็ไม่ตอบ
จากการตรวจสอบพบเอกสาร มีการเข้ารักษาฉีดยาบาดทะยัก ที่รพ.พระสมุทรเจดีย์ คาดว่าน่าจะถูสุนัขกัด เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2559
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ผู้อื่น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตราที่ 65 วรรค 1 ว่าด้วยผู้กระทำผิดมีจิตฟั่นเฟือนควบคุมตัวเองไม่ได้ ถือว่าเป็นความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ และตามประมวลกฎหมายอาญามาตราที่ 65 วรรค 2 ถ้าผู้กระทำผิดกระทำการขณะยังพอจะมีจิตสำนึกหรือรู้ตัวอยู่บ้าง ก็จะมีความผิดที่มีบทลงโทษน้อยกว่า 2 ปี และปรับน้อยกว่า 4,000 บาท หรือเท่าใดก็ได้ตามความเหมาะสม
ในกระบวนการนี้แพทย์เท่านั้นจะเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งก็ต้องรอความเห็นจากแพทย์ว่าเข้าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65 วรรค 1 หรือ 2
ทั้งนี้ก็จะต้องตรวจสอบว่ามีญาติพี่น้องหรือไม่ถ้ามีก็ต้องเชิญมาสอบสวนเช่นกันหากพบว่ามีการปล่อยประละเลยให้ผู้วิกลจริตออกมาเที่ยวเตร่ตามลำพังก็จะมีความผิดเช่นกันซึ่งจะมีอัตราโทษปรับ 500 บาท ในส่วนของการสอบสวนจะต้องดูว่าสามารถสอบสวนได้หรือไม่หากสอบสวนขณะมีจิตไม่ปกติก็จะทำให้การสอบสวนไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะนำตัวผู้ก่อเหตุไปให้สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ดูแลซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เมื่ออาการดีขึ้นจนสามารถสอบสวนได้ก็จะประสาน จิตเวช มาร่วมสอบสวนและแจ้งข้อหาต่อไป