วันที่ 26 ม.ค. 60 - จากกรณี นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ก่อเหตุขโมยภาพเขียนมูลค่า 15,000 เยน จากโรงแรมในนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น อาจจะโดนโทษจำคุกมากถึง 10 ปี ปรับกว่า 150,000 บาท เพราะตามกฎหมายของญี่ปุ่น ความผิดฐานลักทรัพย์เป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 235 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เงินไม่เกิน 500,000 เยน (155,052 บาท) โดยถือเป็นความผิดอันยอมความมิได้
ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากถูกควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด เพื่อรออัยการยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล และหากศาลรับฟ้องก็ต้องถูกคุมขัง เพื่อรอวันนัดไต่สวนคดี ขั้นตอนแรกนี้จะใช้เวลาตั้งแต่ 45-90 วัน จึงจะเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาล ซึ่งหมายความว่าในช่วงนี้ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาผู้นี้จะยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้
สำหรับความผิดของข้าราชการไทยรายนี้ ถือว่าแตกต่างจากกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. ที่เคยถูกควบคุมตัวในกรณีพกปืนเข้าไปในสนามบินนาริตะ แต่สุดท้ายอัยการญี่ปุ่นสั่งไม่ฟ้อง และเนรเทศ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กลับประเทศไทย พร้อมขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่น แต่กรณีของนายสุภัฒถือเป็นคดีอาญาที่มีผู้เสียหาย คือ เจ้าของทรัพย์ ดังนั้น โอกาสที่จะถูกส่งฟ้องต่อศาลมีสูงมาก และอาจถูกสั่งห้ามให้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า
นายสุภัฒรับสารภาพกับตำรวจญี่ปุ่นว่า ต้องการรูปภาพที่ขโมยจริง โดยเป็นภาพที่แขวนไว้ระหว่างทางเดินของโรงแรม บริเวณชั้น 9 ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่า นายสุภัฒเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งนี้ โดยมีเป้าหมายมาขโมยภาพโดยเฉพาะ
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก springnews.co.th