ที่ห้องพิจารณาคดี 803 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยาน คดีดำ ฟ.61/2556 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 3 ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินของ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กับพวก ซึ่ง เป็นผู้คัดค้านรวม 8 คน จำนวน 40 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
โดยในวันนี้พนักงานอัยการผู้ร้องนำพยานเข้าสืบ จำนวน 3 ปาก ประกอบด้วย พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) , ผู้ที่เชี่ยวชาญในการสร้างพระพุทธรูป และประธานบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด
ภายหลังสืบพยานในช่วงเช้า พ.ต.ท.รวมชัย มานะ พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ 3 กล่าวว่า คดีนี้พนักงานอัยการผู้ร้องเตรียมนำพยานเข้าเบิกความ จำนวน 30 กว่าปาก โดยขณะนี้เบิกความไปแล้วหลายปาก คงเหลือพยานผู้ร้องที่ต้องเบิกความ จำนวน 3 - 4 ปาก หลังจากนั้นจะเป็นฝ่ายผู้คัดค้าน
ซึ่งอ้างพยานไว้ 20 กว่าปาก ขึ้นเบิกความต่อ ก่อนที่ศาลจะนัดฟังคำพิพากษาต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ เนื่องจากขณะนี้คดีพึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานผู้ร้อง โดยคดีนี้ทางพนักงานอัยการได้ร้องขอให้ยึดทรัพย์ที่เกิดจากการกระทำผิดหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
ขณะที่ นายกิตติ อธินันท์ ทนายความผู้คัดค้านที่ 8 เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเนื่องจากหลวงปู่เณรคำถูกตั้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และพรากผู้เยาว์ฯทำให้ดีเอสไอแจ้งดำเนินคดี ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับกฎหมายการฟอกเงิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ส่งสำนวนให้อัยการร้องขอต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ประกอบด้วย ที่ดิน บ้าน บัญชีเงินฝาก และรถยนต์ หลายสิบล้านบาท ที่ ปปง.อ้างว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ซึ่งขณะนี้ฝ่ายอัยการผู้ร้องเหลือการสืบพยานอีก 4 ปาก โดยจากนั้นจะเป็นการสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้านอีกหลายสิบปาก โดยเป็นการสืบพยานต่อเนื่อง ถึงวันที่ 27 ม.ค.นี้
ส่วนอดีตหลวงปู่เณรคำ ขณะนี้ยังสู้คดีที่พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศร้องขอให้ทางการสหรัฐฯ ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีที่ไทย ส่วนจะต้องสู้คดีอีกนานแค่ไหนนั้นยังไม่สามารถกำหนดได้ เพราะต้องรอศาลชั้นต้นที่สหรัฐฯ มีคำสั่งลงมาก่อน ซึ่งหลวงปู่เณรคำก็ยังสามารถใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้อีก
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ::: naewna.com