ศาลสั่งประหารชีวิตไอ้เหี้ยมฆ่าชิงทรัพย์สาวขอนแก่นริม ถ.เลี่ยงเมืองพิษณุโลก

ศาลสั่งประหารชีวิตไอ้เหี้ยมฆ่าชิงทรัพย์สาวขอนแก่นริม ถ.เลี่ยงเมืองพิษณุโลก


ศาลจังหวัดพิษณุโลกตัดสินประหารชีวิต นายวิโรจน์ เกิดช้าง ผู้ต้องหาก่อเหตุถีบรถจักรยานยนต์สาวขอนแก่นล้ม แล้วลงมือจับหัวกดน้ำจนเหยื่อเสียชีวิต ก่อนชิงทรัพย์และหลบหนีไป เมื่อ 10 มิถุนายน 2559

เวลา 09.00 น. วันที่ 25 มกราคม 2560  ที่บังลังก์ 3 ศาลจังหวัดพิษณุโลก นายวโรดม ศิริมณีธรรม ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพิษณุโลก ได้อ่านคำพิพากษา คดีอาญาดำ 1187/59 คดีอาญาแดง 116/60 ผู้ต้องหา นายวิโรจน์ เกิดช้าง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 18 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ข้อหา "ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" โดยก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางเกษร ชาปาน อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 34 หมู่ 9 ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น บริเวณริมถนนสายเลี่ยงเมือง สี่แยกอินโดจีน - บึงพระ หมู่ 6 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา และถูกตำรวจ สภ.วังทอง ตามจับกุมได้ขณะหนีไปหลบที่บ้านพักที่ อ.นครไทย เมื่อ 12 มิถุนายน 2559

ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นวันนี้พิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 340 ตรี, 288 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม อันเป็นกฏหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 แต่เนื่องจากมาตรา 399 วรรคท้าย มีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิตแล้ว จึงไม่อาจลงโทษให้หนักขึ้นอีกกึ่งหนึ่งตามมาตรา 340 ตรี ได้อีกให้ลงโทษประหารชีวิต พิเคราะห์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าไม่มีเหตุลดโทษให้จำเลยตามกฎหมาย เมื่อศาลลงโทษประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 999/2558 ของศาลนี้ บวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ได้อีก ให้ยกคำขอในส่วนนี้ แต่ให้ริบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กข 1772 พิษณุโลก ของกลาง กับให้จำเลยคืนเงิน 3,780 บาท แก่ทายาทผู้ตาย และชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ร้อง เป็นเงิน 129,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 กันยายน 2559

การอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีนี้ เป็นการลงโทษสถานหนัก ที่ไม่มีการลดโทษให้ แม้ว่าจำเลยจะรับสารภาพก็ตาม เนื่องจากเห็นว่า จำเลยวางแผน และฉวยโอกาสลงมือกระทำผิดต่อผู้ตายซึ่งเป็นหญิงในสถานที่มืดและเปลี่ยวในเวลากลางคืน ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อหวังชิงทรัพย์ ทั้งยังลงมือฆ่าผู้ตายเพื่อปกปิดการกระทำความผิดของตน เป็นการกระทำที่อุกอาจและเป็นภัยต่อบุคคลอื่นอย่างร้ายแรง และจำเลยกระทำความผิดต่อกฏหมายหลายครั้งหลายหนในการกระทำความผิดของจำเลย ในความผิดต่อพระราชกำหนดการใช้สารระเหยและความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ โดยมีประวัติการกระทำความผิดที่ร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

และในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 999/2558 ของศาลนี้ ศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น มีโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 3 ปี เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี แต่จำเลยหาได้มีความสำนึกไม่ และยังกลับมากระทำความผิดร้ายแรงในคดีนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี หรือความเกรงกลัวต่อโทษทัณฑ์ที่จะได้รับตามกฎหมาย จึงเห็นสมควรลงโทษจำเลยในสถานหนัก และแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ แต่เมื่อพิจารณาถึงพยานหลักฐานโจทก์ ที่สามารถรับฟังได้อย่างหนักแน่น โดยปราศจากข้อสงสัยอยู่ในตัวเอง เนื่องจากมีการพบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และพบทรัพย์สินของผู้ตายที่บ้านของจำเลย คำสารภาพของจำเลย จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา หลังเกิดเหตุจำเลยยังไม่เคยชดใช้ เยียวยา หรือบรรเทาผลร้ายแรงแห่งความผิดที่ตนได้ก่อขึ้น กรณีน่าเชื่อว่าคำให้การรับสารภาพของจำเลย มิได้มาจากความสำนึกในการกระทำความผิด หรือ ลุแก่โทษ แต่ได้ให้การรับสารภาพเนื่องจากจำนนต่อพยานหลักฐาน และหวังผลประโยชน์ในทางคดีของฝ่ายจำเลยเท่านั้น กรณีนี้จึงไม่มีเหตุที่จะลดโทษให้จำเลยตามกฏหมาย

สำหรับเหตุการณ์คดีสะเทือนขวัญเมื่อกลางปี 2559เกิดขึ้นช่วงเวลา 00.10 น. ของวันที่ 10 มิ.ย. 2559 โดยตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพผู้เสียชีวิตในลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่ในคูน้ำริมถนนสายเลี่ยงเมือง สี่แยกอินโดจีน - บึงพระ หมู่ 6 ต.วังพิกุล อ.วังทอง ไปตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางเกษร ชาปาน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 9 ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และใกล้กับศพพบรถจักรยานยนต์ ทะเบียน ขทธ 466 ขอนแก่น ล้มอยู่ข้างๆ โดยมีนายสมควร ชาปาน อายุ 34 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูศพและยืนยันว่าภรรยาไม่น่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่น่าจะถูกคนร้ายถีบรถจักรยานยนต์ประสงค์แต่ทรัพย์ โดยก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์ให้แฟนสาวที่เพิ่งเดินทางมาจาก จ.ขอนแก่น และพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก เดินทางมารับตนหลังจากเลิกงาน แต่รอคอยเป็นเวลานานจนเห็นผิดสังเกต โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่รับสาย จึงให้พรรคพวกช่วยออกติดตามหาจนกระทั่งไปพบศพเสียชีวิตอยู่ในป่าไมยราบ สภาพคว่ำหน้าจมน้ำเสียชีวิตอยู่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยการต่อสู้ในพงหญ้าริมน้ำข้างทาง บริเวณที่พบศพผู้เสียชีวิตจมอยู่ในน้ำ และพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่าเป็นของนายวิโรจน์ เกิดช้าง ผู้ต้องหา จึงร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครไทย ไปติดตามตัวนายวิโรจน์ที่บ้านพักจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

สอบถามเบื้องต้น นายวิโรจน์ เกิดช้าง ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน


ศาลสั่งประหารชีวิตไอ้เหี้ยมฆ่าชิงทรัพย์สาวขอนแก่นริม ถ.เลี่ยงเมืองพิษณุโลก


ศาลสั่งประหารชีวิตไอ้เหี้ยมฆ่าชิงทรัพย์สาวขอนแก่นริม ถ.เลี่ยงเมืองพิษณุโลก


Cr.workpoint

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์