จากกรณีนายปกครอง หรืออ๊อฟ ดินไธสง อายุ 24 ปี ก่อนเหตุดักถีบรถจักรยานยนต์ของน.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ผู้ช่วยพยาบาลสาวของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขณะเหยื่อขับรถไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล จนรถจักรยานยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บแล้วฉุดไปข่มขืนและทำร้าย ชิงทรัพย์ เหตุเกิดเหตุบริเวณป่ายูคาลิปตัสข้างทาง ริมถนนสายคูเมือง-ลำปลายมาศ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 18 ก.ค.2559
ต่อมาตำรวจตามจับนายปกครอง ได้ที่บ้านพักคนงานภายในสวนที่ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.ค.พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีขาว ของผู้เสียหาย ซึ่งจากการสอบประวัติ พบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง ทั้งเคยข่มขืนเด็กป.6 และมีประวัติเรื่องก่อคดีผิดกฎหมาย ขณะที่ญาติและชาวบ้านนับร้อยคนเรียกร้องให้ประหารชีวิต
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนายประคอง ดินไธสง เป็นเวลา 27 ปี พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 200,000 บาท ซึ่งหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นายประคองและญาติ ยอมรับคำพิพากษาไม่ขอยื่นอุทธรณ์และพร้อมชดใช้ค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล
ขณะที่น้าชายของน.ส.ดาว ผู้เสียหาย กล่าวว่า การตัดสินให้นายอ๊อฟ ติดคุก 27 ปีพร้อมชดใช้เงิน 200,000 บาทนั้น ญาติมีความพึงพอใจส่วนหนึ่ง แต่หากมาบวกรวมกับพฤติกรรมของนายอ๊อฟ ที่ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาหลายครั้งในพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่เด็กนักเรียนชั้นป.6 ซึ่งไม่มีใครกล้าแจ้งความเพราะเกรงกลัวอิทธิพล
ทำให้ทุกครั้งที่มีเหตุเรื่องก็จะเงียบหายไป ซึ่งความรู้สึกส่วนตัวนี้ไม่อยากจะให้คนประเภทนี้มีอยู่ในสังคมไทย เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบตามคำรับสารภาพ แต่เป็นความชั่วช้าอยู่ในตัว ไม่สามารถจะกลับมาเป็นคนดีได้อีก หากพ้นโทษออกมาเนื่องการลดโทษกรณีใดๆก็แล้วแต่ ถึงเวลาพ้นโทษมาความทุกข์ก็จะตกอยู่กับชาวบ้านอีกครั้ง