จากกรณี ตำรวจ สภ.ทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีผู้พบศพ น.ส.ปูเป้ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่ง เสื้อกีฬาถูกถลก กางเกงก็ถูกรูดลงมา น้ำลายฟูมปาก แต่ไม่มีร่องรอยโดนทำร้าย แต่มีถุงปุ๋ยคลุมร่างและมีก้อนอิฐวางทับเอาไว้ ภายในคันนาในพื้นที่บ้านปากคอก หมู่ 9 ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายได้ไปร่วมพิธีครอบครูที่สำนักทรงเจ้าแห่งหนึ่ง ต่อมาตำรวจได้จับกุม นายกฤษฎา หรือต่าย ใจเอื้อย อายุ 20 ปี เจ้าพ่อร่างทรงสำนักปู่เสือ ซึ่งรับว่า รู้จักกับน้องปูเป้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะนัดเจอมาทำพิธีครอบครู จากนั้นได้ขอมีเพศสัมพันธ์ แต่น้องปูเป้ไม่ยินยอม จึงเอา ยาฆ่าแมลง ให้ผู้ตายกินจนมึนเมา ก่อนจะลงมือข่มขืนจนสำเร็จ แต่ฤทธิ์ยารุนแรงมาก ทำให้น้องปูเป้ขาดใจเสียชีวิตจึงนำศพมาทิ้งดังกล่าว
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. หลังจากตำรวจ สภ.ทุ่งคอก ควบคุมตัว นายกฤษฎา หรือต่าย เจ้าพ่อร่างทรง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวม 3 จุด ทั้งจุดรับผู้ตาย จุดวางยาฆ่าแมลงให้กินและข่มขืน และจุดขี่ จยย.ลากศพไปทิ้งแล้ว ชาวบ้านกว่า 300 คน ได้ตะโกนสาปแช่งตลอดเวลาและพยามยามจะเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่นายต่ายกำลังทำแผน ได้รับสารภาพเพิ่มเติมว่า ตนขอความเห็นใจด้วย เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าผู้ตายด้วยการวางยา แค่เอายาฆ่าแมลงผสมให้กินเพื่อให้มึนเมาเล็กน้อย หวังให้ไม่มีแรงต่อสู้ขัดขืนเท่านั้น แต่เผอิญว่าพลั้งพลาดใส่ยาหนักมือไปหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดจะฆ่าให้ตายตามที่เป็นข่าว ทำให้คนในโลกโซเชียลเข้าใจผิดและโพสต์ด่าทอตนมากมาย
สำหรับประวัติอาชญากรรมพบว่า นายกฤษฎา มีประวัติเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์และยาเสพติด ก่อนจะพ้นโทษออกมาและมาเปิดสำนักทรงเจ้าดังกล่าว