พ่อร่ำไห้กอดศพ ไม่มีเงินซื้อโลง แฉแม่ใจอำมหิตเคยพยายามทำแท้ง

พ่อร่ำไห้กอดศพ ไม่มีเงินซื้อโลง แฉแม่ใจอำมหิตเคยพยายามทำแท้ง


จากกรณีที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาน.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี เข้าพบพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และพ.ต.อ.พิทักษ์ ปัญญาพร ผกก.สน.บุปผาราม เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่น.ส.น้อยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าด.ญ.ขนม (นามสมมุติ) อายุ 5 เดือนหลานสาว ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสต้องผ่าตัดสมอง โดยมีเพื่อนบ้านเป็นพยานรู้เห็นว่าหลานสาวน่าจะถูกน.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลูกสะใภ้ทำร้ายร่างกาย และได้นำด.ญ.ขนมไปรักษาตัวอยู่ในห้องไอซีอยู่ รพ.ศิริราช ต่อมาเมื่อกลางดึกวันที่ 18 ม.ค. ด.ญ.ขนมได้เสียชีวิตลงที่รพ.ศิริราช

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมนางน้อย (นามสมมติ) ผู้เป็นย่าของเด็ก นายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พ่อเด็ก ได้เดินทางไปรับศพน้องขนม. ที่นิติเวช รพ.ศิริราช

นางน้อยกล่าวว่า ตนเป็นแค่แม่บ้านของรพ.ศิริราช เงินทองก็ไม่ได้มากมายอะไร แม้แต่โลงศพของน้องยังไม่มีปัญญาซื้อ แต่เมื่อคนใกล้ชิดทราบข่าวก็ให้กำลังใจและช่วยเหลือเงินมาบางส่วน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ตนเสียใจเป็นอย่างมากเพราะหลานคนเดียว อยู่ในวัยน่ารัก เลี้ยงง่าย รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันเกิดเหตุ ไม่มีคนอยู่บ้านลูกชายกับตนต่างไปทำงาน แต่มีคนในชุมชนเห็นกันหลายคนบอกว่าลูกสะใภ้เป็นคนทำร้ายหลานสาว

นางน้อยกล่าวว่า ตนยอมรับว่าเคยมีปากเสียงกับลูกสะใภ้คนนี้บ่อยครั้ง สาเหตุมาจากการเลี้ยงลูก หากลูกสะใภ้โกรธหรือมีปัญหาอะไรก็จะมาลงกับลูก ตีลูก คนในชุมชนแถวบ้านทุกคนก็รักหลานและเป็นห่วงหลานสาวตนเอง และจะต่อว่าลูกสะใภ้ตนในเรื่องการเลี้ยงเด็ก

นางน้อยกล่าวว่า ถ้าอากาศเย็นก็จะบอกว่าทำไมไม่หาเสื้อหนาวให้เด็กใส่ ทำให้ลูกสะใภ้ไม่พอใจไปด้วย ที่ถูกเพื่อนบ้านติติงแล้วตัวสะใภ้ก็มักจะกลับมาตีหลานโทษว่า เป็นตัวการที่ทำให้ถูกชาวบ้านด่า และลูกสะใภ้ก็มักจะตีและด่าหลานสาวว่าเป็นคนที่แย่งความรักของตนเองไปจากตัวลูกชาย ซึ่งลูกและตนก็อธิบายพูดคุยหลายครั้งว่า รักทั้งแม่และลูก

นส.น้อยกล่าวว่า อยากจะถามผู้กระทำว่าทำไปเพื่ออะไร แม้แต่หมอโทรเรียกให้มาดูใจลูก ก็ตอบไปว่าไม่อยากไป หากจะมาเป็นห่วงลูกตอนนี้มันสายไปแล้ว หากเด็กรอด แต่พิการจะรับได้ไหม ก่อนหน้านั้นเคยบอกว่าตนจะอาสารับไว้เลี้ยงเอง แต่ก็ไม่ยอมบอกว่า คลอดเองเลี้ยงเองได้ เพราะหากลูกอยู่กับย่าลูกจะนิสัยไม่ดี แต่หากอยู่กับตนลูกจะไม่เลว แต่จะตายเลย ตนจึงวิงวอนขอความเป็นธรรมที่ต้องเสียหลานสาวที่น่ารักไป

นายเล็กกล่าวว่า ตนคบกับแฟนสาวได้ประมาณ 2 ปีเศษ แฟนสาวนิสัยส่วนตัวเป็นคนอามรมณ์รุนแรงและขี้หึงมาก ตนอยากมีลูกมานานแล้ว แต่แฟนสาวไม่อยากมี โดยขณะท้องพยามที่จะเอาลูกออกด้วยการทำแท้ง บางครั้งทุบท้องตัวเอง แกล้งตกบันไดเพื่อให้แท้งลูก แต่ตนก็ได้สอนเรื่องของบาปบุณคุณโทษกับแฟนจนคลอดลูกออกมา

นายเล็กกล่าวว่า เรื่องการทำร้ายลูกตนก็ได้ยินจากชาวบ้านมาบ่อยครั้งขณะที่ตนไปทำงานเป็นรปภ. แต่ทุกครั้งก็จะรีบไปดูลูกพร้อมสอบถามว่าทำลูกไปทำไม แต่ไม่เคยได้เหตุผลจากปากแฟนสาวแม้แต่ครั้งเดียว และยังด่าตนว่าอย่ามายุ่ง ซึ่งทุกครั้งลูกจะมีบาดแผล ที่บริเวณแขน ขา ใบหน้าทุกครั้ง ต่อจากนี้ก็อยากให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายอยู่ที่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะว่าอย่างไร

พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก.น.8 เผยว่า จากการเข้ารับฟังผลการผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียพร้อมญาตินั้น ทางแพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์ได้เปิดเผยว่าสาเหตุการณ์เสียชีวิตมาจากเลือดคั่งในสมองเนื่องจากกระโหลกศรีษะแตก ในส่วนของคดีนั้นเบื้องต้นสอบสวนพยานไปบางส่วนแล้ว ในส่วนการสอบปากคำแม่ของเด็กซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ต้องทำการประสานอัยการและนักสังคมสงเคราะห์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสอบปากคำแม่ว่าเป็นผู้กระทำการดังกล่าวจริงหรือไม่ อย่างไรก็ดี จะได้ทำการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นางปวีณาเปิดเผยว่า ภายหลังจากคุณย่าและผู้หวังดีเข้าแจ้งกับมูลนิธิ ตนได้สอบถามรายละเอียดด้วยตนเอง และพาย่าของเด็กเข้าพบผบก.น.8ก่อนที่จะเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ จนทราบข่าวที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งว่า น้องได้เสียชีวิตลงแล้วจึงได้เดินทางมาเพื่อรับฟังผลการผ่าพิสูจน์ และให้การช่วยเหลือ โดยในส่วนของการช่วยเหลือและดูแลทางมูลนิธิฯได้ช่วยเหลือเงินจำนวน 10,000 บาท

ส่วนทางพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ได้มอบสมทบเป็นค่าทำศพอีกจำนวน 5,000 บาท เนื่องจากทราบมาว่าครอบครัวค่อนข้างยากจนแม้แต่ค่าโลงยังไม่มี ต่อจากนี้ในส่วนของคดีนั้นคงต้องมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินคดีและค้นหาความจริง ส่วนการช่วยเหลือและเยียวยานั้นทางมูลนิธิฯก็พร้อมที่จะดูแลต่อไป สำหรับศพของเด็กนั้นจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดอนงคาราม 1 คืน และพรุ่งนี้ (19ม.ค.)จะเผาเวลา 12.00 น.


Cr.khaosod

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์