ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.125/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายกิตติกร หรือตั้ม วิกาหะ อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง ชาวจ.สระแก้ว และนายสุพัฒชัย หรือเอ๊กซ์ จันทร์ศรี อายุ 25 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว จ.อุทัยธานี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ ที่ตนกระทำผิดฯ, ฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
กรณีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 60 เวลากลางคืน จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ จำเลยที่ 1 ได้นั่งซ้อนท้ายรถจยย. โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นคนขี่ มาถึงบริเวณปาก ซ.สุคนธสวัสดิ์ 27 ถ.สุคนธสวัสดิ์ แขวง - เขตลาดพร้าว กทม.พบนายวศิน เหลืองแจ่ม กำลังถือโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 6 ราคา 26,000 บาท จำเลยที่ 1 จึงใช้อาวุธมีดจี้ขู่เข็ญให้นายวศินยื่นโทรศัพท์ให้ แต่นายวศินต่อสู้ขัดขืน จึงถูกจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายนายวศินอย่างแรงหลายครั้งตามร่างกาย และลำคอจนถึงแก่ความตาย แล้วชิงโทรศัพท์มือถือผู้ตายหลบหนีไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมของกลาง 5 รายการส่งพนักงานสอบสวนสน.โคกครามดำเนินคดี
ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพโดยตลอด ท้ายฟ้องอัยการโจทก์ระบุด้วยว่า จำเลยทั้งสองกระทำความผิดโดยอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน ทั้งหลังก่อเหตุคดีนี้ในวันเดียวกันจำเลยทั้งสองยังก่อเหตุชิงทรัพย์พื้นที่ สน.โชคชัย และก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ พื้นที่สน.โคกครามด้วย
การกระทำของจำเลยนับเป็นภัยสังคม และเหตุที่จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนนั้นเพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองสถานหนักด้วย
โดยวันนี้ศาลได้ออกหมายเบิกตัวจำเลยทั้งสองจากเรือนจำพิเศษมาศาลเพื่อสอบคำให้การ โดยศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสองฟังจนเข้าใจแล้วสอบถามว่า จะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธปรากฏว่านายกิตติกร จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพโดยดี
ส่วนนายสุพัฒชัย จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี อ้างว่าเป็นแค่คนขี่จยย.พาไปก่อเหตุเท่านั้น และเข้าไปห้ามนายกิตติกร ให้หยุดประทุษร้ายผู้ตาย ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 09.00 น.