คสช.ตะครุบแล้ว5คน แก๊งแฮกเกอร์ เจาะเว็บฯหน่วยงานรัฐ เตรียมจับเพิ่มอีกนับ100 ผิดพรบ.คอมพ์-กม.มั่นคง กลุ่มต้านขู่เยี่ยมบ้านลุงตู่ ประกาศแฉงบฯกองทัพ
คสช.คุมตัว 5 ผู้ต้องสงสัย กลุ่มเครือข่ายพลเมืองโจมตีเว็บราชการ เตรียมขยายผลจับอีกนับ 100 คนฟันข้อผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์-ความมั่นคง ด้านผบ.ตร.สั่งปอท.ตามลากคอโดยเร็ว ขณะที่กลุ่มแฮกเกอร์ยังท้าทายอำนาจคสช. ประกาศไปเยี่ยมบ้าน"ลุงตู่" เจาะข้อมูลการใช้งบของกองทัพ เผยภาคที่ 2 โดนรุมถล่มจนเดี้ยง ส่วนนายกฯลั่นเร่งกำจัดขยะโซเชียล
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)กล่าวถึงกรณี พลเมืองต่อต้าน SingleGateway โพสต์บนเพจเฟซบุ๊คประกาศจะเปิดข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 4,000 นาย ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือน,ค่ารักษาพยาบาล, ค่าเล่าเรียน, เลขที่บัญชีธนาคาร และค่าใช้จ่ายต่างๆ และอ้างเตรียมแฮกข้อมูลหน่วยงานของรัฐอีกจำนวนมากว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ให้สำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ เร่งรัดหามาตรการป้องกันการเข้าถึงชั้นความลับทุกกรณีและสั่งการให้ทุกหน่วยไปตรวจสอบการเข้าถึงที่ไม่ชอบทุกกรณีด้วยพร้อมมอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) รับผิดชอบตรวจสอบกลุ่มคนผู้กระทำผิด
เชื่อมุ่งดิสเครดิตภาคราชการ
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า สำหรับข่าวตามเพจต่างๆ ที่มีการแชร์ว่ามีหลายเว็บไซต์ของตำรวจถูกแฮกรวมถึงเมื่อคืนวันที่ 22 ธันวาคม อ้างถูกแฮกข้อมูลของ ตำรวจทางหลวงมาแฉอินเตอร์เนตทั้งเงินตำรวจ ค่ารักษาพยาบาล เลขบัญชีธนาคารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เบื้องต้นยังไม่มีความเสียหายทางข้อมูลหรือชั้นความลับทางราชการ เชื่อว่ามุ่งดิสเครดิตภาคราชการซึ่งได้ให้ทุกหน่วยไปสำรวจความเสียหายของเว็บไซต์และข้อมูลก่อนมาร้องทุกข์ เบื้องต้นยังไม่มีหน่วยงานใดของรัฐมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ดังนั้นขอเตือนผู้ที่ชักชวนผู้อื่นให้กระทำผิด และผู้ที่ลงมือกระทำผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน
ประกาศเร่งเอาผิดกลุ่มแฮกเกอร์
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกตร. กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งดำเนินการติดตามกลุ่มแฮกเกอร์ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวเข้ามาแต่อย่างใด บอกได้เพียงว่าขณะนี้การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้กระทำผิดว่าเป็นคนกลุ่มใด
คสช.รวบแล้ว 5 จ่อจับอีกนับ 100
ขณะที่แหล่งข่าวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ด้านไซเบอร์ได้ติดตามพฤติกรรมกลุ่มต้องสงสัยมาระยะหนึ่งแล้ว พบว่ามีจำนวน 5 คนที่มีพฤติกรรมโจมตีและเจาะเว็บไซต์หน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ คสช.จึงได้เชิญตัวกลุ่มพลเมืองต่อต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์ มาพูดคุยและให้ข้อมูลที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นทั้งหมดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีคาดว่าจะสามารถขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกเกือบ 100 คนได้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีความคึกคะนอง
"ขณะนี้เรามีข้อมูลเอาผิดบุคคลต้องสงสัยทั้ง 5 คน กำลังดำเนินการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม หลังครบ 7 วัน จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนและส่งฟ้องศาลพลเรือน ซึ่งมีความผิดเกี่ยวข้องคือพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550 ต้องดูที่เจตนาด้วยว่าทำลายความมั่นคงประเทศหรือไม่ เบื้องต้นมีความชัดเจนว่าเข้าข่าย เพราะไปโจมตีเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง เว็บไซต์หน่วยงานราชการเพื่อต้องการให้เว็บไซต์ล่ม" แหล่งข่าว คสช.ย้ำ
บิ๊กเจี๊ยบรับเว็บคสช.โดนโจมตี
ที่สนามกีฬาสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีฯ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาทผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวยอมรับว่า เว็บไซต์ของ คสช.ก็โดนโจมตี แต่ไม่ได้เสียหายมาก ก็ทำให้การเข้าเว็บไซต์อืดบ้างเล็กน้อย แต่ไม่สามารถนำข้อมูลอะไรไปได้ เรามีการป้องกันเต็มที่เว็บไซต์ของกรมการเงินทหารบกก็เช่นกันแต่ยังไม่มีผลกระทบใดๆ ให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงชี้แจงกับทุกส่วนให้เห็นว่ามีแต่ความเสียหายกับประเทศ เท่าที่ทราบส่วนใหญ่ เป็นเด็กเยาวชนที่คงได้ความสะใจแต่สูญเสียอนาคต จะคุ้มกันหรือไม่
ปัดตอบกลุ่มไหนแฮก-รอชี้แจง
ส่วนที่ประชาชนยังไม่เข้าใจพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่ามีการชี้แจงให้ความรู้กับประชาชน 2 ส่วนคือ 1.พยายามทำความเข้าใจ 2.ถ้าทำความเข้าใจแล้ว ยังไม่เข้าใจ และพยายามก่อกวนก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเป็นผู้ออกมาแแถลงเรื่องดังกล่าว ทาง คสช.มีหน่วยตรวจสอบอยู่แล้ว กองทัพบกและ คสช.ทำงานร่วมกัน เรื่องนี้ทางผู้รับผิดชอบ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ได้ดำเนินการอยู่ คาดจะออกมาแถลงต่อไป ส่วนจะเป็นกลุ่มไหนที่ก่อกวนนั้น ไม่บอกรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะออกมาชี้แจงเอง
ผบ.ทบ.ยังอุบคุมตัว5แฮกเกอร์
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ได้ปฏิเสธตอบคำถามถึงกระแสข่าว คสช.ได้ควบคุมตัวกลุ่มพลเมืองต่อต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์ 5 คนที่โจมตีเว็บไซต์หน่วยงานราชการที่มณฑลทหารบกที่ 11 โดยพูดเพียงสั้นๆ ว่า "รอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องข้อมูล หากตอบไปเกรงว่า จะเกิดความคลาดเคลื่อน" ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มแฮกเกอร์โจมตีเว็บไซต์กองทัพภาคที่ 2 นั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า ได้รับทราบแล้ว กองทัพ มีระบบป้องกันที่ดีอยู่แล้ว
ขู่เยี่ยมบ้าน‘ลุงตู่'แฉงบกองทัพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของความเคลื่อนไหวของแฟนเพจ "พลเมืองต่อต้าน Single Gateway ที่ประกาศปฏิบัติการโจมตีถล่มเว็บไซต์หน่วยงานราชการเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ระดมกดปุ่ม F5 มุ่งหวังให้แฮกระบบเว็บไซต์ล่มใช้การได้ รวมไปถึงการแฮกเพื่อนำข้อมูลของหน่วยงานราชการต่อเนื่องเป็นวันที่สี่แล้วเพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยอ้างโจมตีจนส่งผลให้เว็บไซต์ของทั้งทำเนียบรัฐบาล กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงต่างประเทศ สภาความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติรวมถึงเว็บไซต์ในภูมิภาคด้วย
และล่าสุด เพจดังกล่าวได้ประกาศระดมทุกทีมพุ่งเป้าเข้าไปโจมตีไปเยี่ยมบ้านนายกรัฐมนตรีโดยจะทำการเปิดการใช้งบประมาณของบางหน่วยงานในกองทัพบกเปรียบเสมือนบ้านของ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.โดยกำหนดโจมตี วันที่ 23 วันที่ 26 และ วันที่ 27 ธ.ค. ในเวลา 20.00 น.
อย่างไรก็ตาม พบว่าเว็บไซต์ของกองทัพภาคที่ 2 โดนกลุ่มพลเมืองต่อต้านพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เข้าไปกด F5 โจมตีจนไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราวแล้ว
นายกฯลั่นเร่งปราบขยะโซเชียล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวว่าควรเร่งกำจัดข้อมูลขยะบน
โซเชียลมีเดียที่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่นและเร่งให้ฝ่ายกฎหมายออกมาตรการควบคุม กำจัดข้อมูลที่สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้ผู้อื่นและป้องกันไม่ให้สังคมเสื่อมโทรม โดยรัฐบาล ได้เร่งตรวจสอบ ค้ายา ค้าของเถื่อน การแฮกระบบเศรษฐกิจ หรือธุรกิจ
"ท่านจะยอมให้โซเชียลมีเดีย มีสิ่งชั่วร้ายแบบนี้หรือซึ่งให้ฝ่ายกฎหมายไปหามาตรการมา เพราะทั่วโลกเขาระวังกันหมด มีแต่เมืองไทยนี้ ปลดล็อกหมด ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาล้วงข้อมูลส่วนตัวของใครและไม่ได้ต้องการใช้มาตรการใดๆ เพื่อจับกุมใครทั้งนั้น เพราะทุกวันนี้ คุกล้นแล้ว"
กสม.ชี้ภัยร้ายแรงปท./ละเมิดสิทธิ์
ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแฮกเกอร์นิรนามที่เรียกตัวเองว่า "Anonymous"ได้ทำการเจาะข้อมูล
เว็บไซต์ของหน่วยงานราชการประเทศไทยกว่าหลายหน่วยงาน รวมถึงยังเจาะข้อมูลของประชาชนว่า ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ หากมีการแฮกข้อมูลของประชาชนจริง ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนถูกเจาะข้อมูล จะต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งตำรวจต้องรีบหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีลงโทษให้ได้ ถือเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นอยู่ส่วนบุคคล
มาร์คแนะรบ.ฟังเสียงคนรุ่นใหม่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอแนะกรณีมีการคัดค้านพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ว่า ควรเปิดช่องทางให้มีการแลกเปลี่ยน รับฟังความเห็นคนที่ไม่เห็นด้วยเรื่องกฎหมายคอมพิวเตอร์พื่อทำให้กฎหมายมีความชัดเจนมากขึ้น ดีกว่าที่จะมานั่งคิดว่า จะรับมือกับการแฮกข้อมูลราชการอย่างไร เพราะคนที่คัดค้านจำนวนมากเป็นคนรุ่นใหม่ห่วงเรื่องการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขต จึงควรพิจารณาว่าจะแก้ไขอย่างไรให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการละเมิดสิทธิแต่ไม่กระทบกับ
การรักษาความมั่นคงและการปกป้องสิทธิของคนที่อาจจะถูกละเมิด
Cr::naewna.com