เมีย สุพัฒน์ รีบขึ้นรถเผ่น หลังได้รับอภัยโทษ !!

 โดยมีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จำนวนรวม 120 คน แบ่งการปล่อยตัวเป็น 2 ช่วง และวันนี้ปล่อยตัวช่วงแรก 47 คน ซึ่งหนึ่งในผู้ได้รับการปล่อยตัวช่วงแรก มี น.ส.วิลสา จันทรบัญชร อายุ 44 ปี ภรรยาคนที่ 3 ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ในคดีฆ่าผู้อื่น ลักทรัพย์ และค้ามนุษย์ โทษสูงสุดประหารชีวิต รวมอยู่ด้วย

โดย น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ถูกพนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในคดีลักทรัพย์เป็นรถยนต์ กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และนางอรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยาชาวไร่สับปะรด ใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ที่สูญหายไป ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2556 ศาลเพชรบุรีได้มีคำพิพากษาคดีแดงที่ 4377 / 2556 ให้ทั้งคู่มีความผิดตาม ป.อาญา ม.335 จำคุก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ จำนวน 5 ปี ส่วน น.ส.วิลสา ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพนักงานสอบสวนจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ขณะศาลอ่านคำพิพากษา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่มาฟังคำพิพากษา และหลบหนี

ทั้งนี้ น.ส.วิลสา เข้ารับโทษการจองจำที่เรือนจำกลางเพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2558 และมีกำหนดพ้นโทษจริงในวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ขณะถูกจองจำปฏิบัติตนเป็นนักโทษชั้นดี คดีทั่วไป ซึ่งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ครองสิริราชสมบัติ ครบ 70 ปี จึงได้รับการลดโทษ 1 ปี 1 เดือน 10 วัน มาแล้ว 1 ครั้ง และครั้งนี้ในวโรกาสการขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดิทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ได้รับการอภัยโทษได้รับการปล่อยตัว รวม น.ส.วิลสา ถูกจองจำจริง ประมาณ 15 เดือน

หลังได้รับการปล่อยตัวปรากฏว่า ไม่มีญาติของ น.ส.วิลสา มารอรับแต่อย่างใด มีเพียงนายประเสริฐ หรือแก้ว ว่องอุดมทรัพย์ อดีตลูกน้องคนสนิท พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มารับ เบื้องต้น น.ส.วิลสา ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ แต่จากการสอบถามนายประเสริฐ ทราบว่า น.ส.วิลสาอาจเดินทางไปพักอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และรีบเดินขึ้นรถยนต์กลับโดยทันที

อนึ่ง คดีลักทรัพย์ ที่ น.ส.วิลสา และพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกดำเนินคดีร่วมดังกล่าวเป็นต้นเหตุแห่งการขยายผลสืบสวนไปค้นบ้านพักในไร่ ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่บ้านท่ามะริด ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และคลินิกของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในกรุงเทพฯพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ทั้งยังพบแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองในไร่ พบว่ามีการทารุณ และแรงงานชาวเมียนมา ทั้งยังขยายผลขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ 3 โครง ที่ไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ก่อนจะมีการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอ แล้วพบว่าเป็นโครงกระดูกของ นายอีต้า แรงงานเมียนมา ที่ถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ฆ่าเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2547 เนื่องจากไม่พอใจที่สนิทสนมกับ น.ส.วิลสา ภรรยาคนที่ 3

พนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี จึงสั่งฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เพิ่มอีก 2 ข้อหาคือ 1.รับคนงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน, ให้ที่พักพิงซ่อนเร้นแก่คนงานต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม และข้อหาค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จำคุก 8 ปี 33 เดือน และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายรวม 1 ล้านบาท และ 2.ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ฯลฯ คดีถึงที่สุดเมื่อศาลพิพากษาประหารชีวิต พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และนายเอกผู้เป็นบุตรชายข้อหาร่วมกันฆ่า ส่วนนายอัคร บุตรชายอีกคนที่ร่วมก่อคดีขณะเกิดเหตุอายุ 19 ปีเศษยังไม่บรรลุนิติภาวะ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งพิพากษาลงโทษจำคุก 25 ปี 3 เดือน

อย่างไรก็ตามระหว่างพิจารณาคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้หลบหนีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานกว่า 1 ปี กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามควบคุมตัวได้ ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา และอยู่ในระหว่างดำเนินการนำตัวกลับมาดำเนินคดี