เราใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงในการคลี่คลายคดีฆ่า น.ส.พจนีย์
" ซึ่งถูกแฟนหนุ่มฆ่าหมกกลางทุ่งนา ตอนแรกคิดว่าเป็นการฆ่าข่มขืนแบบวิตถาร เพราะที่ศพคนตายมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่ก้น แต่ตอนหลังพบว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากถูกสัตว์กัดแทะ โดยนายเอกสิทธิ์คนร้ายให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะฝ่ายหญิงคิดตีตัวออกห่าง เลยโมโหชักปืนยิงใส่ก่อนไปบอกพ่อให้มาช่วยกันอำพรางศพ"
ลากคอฆาตกรใจโหดมาชดใช้กรรมสำเร็จ
"พจนีย์" ถูกแฟนหนุ่มฆ่ายัดกระสอบทิ้งศพหมกบ่อน้ำกลางนาในเขตอ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ศพโผล่ฟ้องขอความเป็นธรรมตอนเที่ยงวันที่ 10 สิงหา ซึ่งทันทีที่พบศพตำรวจก็สามารถตามจับกุมคนร้ายไว้ได้ชนิดไม่ทันข้ามวัน
ใจคอโหดร้ายฆ่าได้แม้ผู้หญิง!!
ย้อนกลับไปดูปูมหลังเรื่องนี้ทันทีที่พบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดกระสอบทิ้งศพหมกบ่อน้ำกลางทุ่งนา ห่างจากถนนใหญ่สายนครหลวง-ท่าเรือ ประมาณ 3 ก.ม. ในพื้นที่ ม.4 ต.บางพระครู อ.นครหลวง ตำรวจอยุธยาภายใต้การนำของพล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าของท้องที่ พ.ต.อ.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผกก.สภ.อ.นครหลวง พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผินแสง สวป. พ.ต.ท.ถาวร อารีรื่น พนักงานสอบสวน จึงเดินทางรุดไปตรวจสอบทันที
เกิดเหตุร้ายขึ้นแล้วในท้องที่นี้
ตอนแรกยังไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน เพราะไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยัน รู้เพียงเป็นหญิงผิวขาวสูงประมาณ 155 ซ.ม. แต่งตัวแบบวัยรุ่น ถูกฆ่ายัดอยู่ในกระสอบปุ๋ย 2 ใบ สวมด้านศีรษะ 1 ใบ และสวมจากขาเข้ามาอีก 1 ใบจนมิดร่างกาย ศพลอยคว่ำหน้าอยู่ในพงหญ้ากลางบ่อน้ำ เมื่อนำศพขึ้นมาพบว่าเน่าอืด เนื้อผิวหนังเริ่มหลุดลุ่ย ที่บริเวณท้ายทอยมีบาดแผลถูกยิงจนกะโหลกแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่สำคัญพบบาดแผลขนาดใหญ่ที่ก้นเป็นโพรงโบ๋ คล้ายถูกข่มขืนอย่างวิตถาร ในตัวผู้ตายทรัพย์สินทุกอย่างยังอยู่ครบ ถูกฆ่ามาแล้วประมาณ 6 วัน