เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 11 ส.ค.
พ.ต.ท.นิวัฒน์ ชื่นวิเศษ สว.สส.สภ.อ.ละแม จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บริเวณบ้านเลขที่ 85 บ้านทรายงาม หมู่ 9 ต.สวนแตง อ.ละแม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.อ.ละแม พ.ต.ท.ไพบูลย์ เทพา สวป. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่ใกล้กับชายทะเล
บริเวณหน้าบ้านพบจานข้าว จานกับข้าว แก้วน้ำ และขวดเหล้าขาวแตกกระจายเกลื่อน และเศษอาหารเปรอะเปื้อนปนกองเลือดเต็มไปหมด ส่วนประตูหน้าบ้านและหน้าต่างมีรอยกระสุนเป็นรูพรุนหลายสิบรู ส่วนใต้โคนต้นมะพร้าวและพุ่มไม้ห่างจากจุดเกิดเหตุหน้าบ้านประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. และปลอกกระสุนปืนลูกซองจำนวนมาก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเหยื่อกระสุนทราบจากชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ว่ามีทั้งหมด 5 คน มีพลเมืองดีช่วยนำส่งโรงพยาบาลละแมไปแล้วและเสียชีวิตระหว่างทาง 2 ศพ
ทราบชื่อผู้ตายคือนายโกวิทย์ ทิมกลับ อายุ 61 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 8 ต.ทุ่งคาวัด อ.ละแม จ.ชุมพร มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองกลางหน้าอกรวม 21 รู และ ด.ช.พงษ์พัฒน์ ทิมกลับ อายุ 12 ปี เป็นหลานชายของนายโกวิทย์ ถูกยิงที่หน้าผาก 1 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 คน ทราบชื่อนางอำภา ทิมกลับ อายุ 56 ปี ภรรยานายโกวิทย์ ถูกยิงที่เข่าขวาและแขนซ้าย 2 นัด น.ส.ศิริพร ทิมกลับ อายุ 31 ปี ลูกสาวของนายโกวิทย์ ถูกยิงที่สะโพกซ้าย 1 นัด และนายบุญธรรม ไพฑูรย์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน หลังเกิดเหตุถูกยิงบริเวณลำตัว 3 นัด ทั้งหมดอาการสาหัส แพทย์ตรวจรักษาอาการเบื้องต้นก่อนส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
จากการสอบสวนทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา นายโกวิทย์ ผู้ตาย หรือชาวบ้านเรียกว่า “หมอวิทย์” ได้พาครอบครัว ประกอบด้วยนางอำภา ภรรยา น.ส. ศิริพร ลูกสาว และ ด.ช.พงษ์พัฒน์ หลานชาย เดินทางไปหานายบุญธรรม เพื่อนสนิทที่คบหากันมานาน เพื่อชักชวนกันออกเรือไปตกปลากลางทะเลตอนดึก แต่ก่อนจะออกเรือได้มีการทำกับข้าวและดื่มกินกันที่หน้าบ้านอย่างสนุกสนาน โดยมีเพื่อนบ้านที่สนิทกันร่วมวงอีกเกือบ 10 คน ปรากฏว่าระหว่างที่ทั้งหมดเตรียมจะเลิกกินเพื่อเตรียมตัวออกไปตกปลากลางทะเล จู่ๆมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนหลายกระบอกกระหน่ำยิงใส่ไม่ยั้งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวก่อนพากันหลบหนีไปในความมืด
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า
คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนใช้อาวุธปืนรวม 3 กระบอก แยกเป็นปืนพก 9 มม. 1 กระบอก และลูกซอง 5 นัด อีก 2 กระบอก ซุ่มอยู่ในมุมมืดที่โคนต้นมะพร้าวและพุ่มไม้หน้าบ้าน โดยมีเป้าหมายมุ่งสังหารนายโกวิทย์และครอบครัวเป็นหลักหมายถล่มฆ่าล้างครัว โดยไม่สนใจว่ามีเด็ก หรือผู้หญิง และชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องนั่งอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับประวัติของนายโกวิทย์ พบว่าเป็นอดีตทหารป่าเข้าร่วมกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ มีตำแหน่งเป็นหมอทหาร โดยรู้จักกันในชื่อ “หมอวิทย์” หรือ “สหายวิทย์” เคลื่อนไหวอยู่ในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน
ต่อมาหลังเหตุการณ์คลี่คลาย นายโกวิทย์ได้เข้าร่วมเป็นผู้พัฒนาชาติไทย
โดยสร้างบ้านหลังใหญ่ใกล้กับโรงเรียน ตชด.สิริราช เขต อ.ละแม ประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกสวนปาล์ม สวนกาแฟ และยางพารา นับร้อยๆไร่ จนมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี ชอบทำตัวติดดิน คลุกคลีกับชาวบ้านทั่วไปและถือเป็นผู้กว้างขวางระดับแนวหน้าทั้งในพื้นที่และระดับจังหวัด ชาวบ้านมีปัญหาเดือดร้อนไปขอความช่วยเหลือก็ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี แม้แต่การติดต่อซื้อขายที่ดินบริเวณดังกล่าวก็จะต้องผ่านหรือไปปรึกษาหารือกับนายโกวิทย์เกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ นายโกวิทย์ยังเป็นคนหัวคะแนนให้กับนายสุวโรช พะลัง อดีต ส.ส.ชุมพร
พรรคประชาธิปัตย์ด้วยส่วนปมสังหารสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ที่ดิน กับกลุ่มนายทุนอิทธิพลที่ต้องการกว้านซื้อที่ดินบริเวณป่าสงวนแห่งชาติเขามอดและพื้นที่สาธารณะที่ชาวบ้านครอบครองทำกินอยู่นับพันไร่เพื่อนำไปทำสวนป่า ปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน แต่ชาวบ้าน โดยเฉพาะนายโกวิทย์ไม่ยอม เนื่องจากต้องการกันไว้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีการขัดขวางต่อต้านมาตลอด ส่งผลให้กลุ่มนายทุนอิทธิพลเสียผลประโยชน์ ส่งมือปืนมาสังหารอย่างโหดเหี้ยม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมืองที่นายโกวิทย์เป็นหัวคะแนนให้กับนักการเมืองระดับชาติด้วย
ด้านนายสุวโรช พะลัง อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ถึงคดีดังกล่าวว่า
รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายโกวิทย์ด้วย ตนรู้จักผู้ตายมานานกว่า 15 ปี เป็นคนดีที่ชาวบ้านรักใคร่และถือเป็นผู้บุกเบิกให้เกิดอำเภอละแมคนหนึ่ง ตั้งแต่สมัยยังไม่เจริญ รวมทั้งดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่แทนตนมาตลอด สำหรับสาเหตุการสังหารยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากเรื่องที่ดินที่ผู้ตายมักคอยดูแลแบ่งปันพื้นที่ทำกินให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน คงไม่เกี่ยวกับการเมือง เพราะการเมืองใน จ.ชุมพร ถือว่าไม่มีความขัดแย้งมีอิทธิพลถึงขั้นต้องฆ่ากัน คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก
หมายลงมือฆ่าทั้งครอบครัวไม่เว้นแม้แต่เด็กและผู้หญิง การเสียชีวิตของนายโกวิทย์ถือเป็นความสูญเสียหัวคะแนนทางการเมืองที่สำคัญคนหนึ่ง ทั้งนี้ จะได้คอยตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็เชื่อว่าตำรวจอย่าง พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.อ.ละแม ซึ่งเป็นหลานชายของ พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 มีฝีมือจนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้แน่นอน นายสุวโรชกล่าว