พ่อตีนโหดกระทืบเด็ก 7 ขวบลูกเพื่อนบ้าน เข้ามอบตัวรับข้อหาทำร้ายร่างกายทารุณโหดร้าย มีโทษจำคุกถึง 3 ปี รำพึงถ้าย้อนเวลาได้จะกลับไปแก้ไข ทำไปเพราะรักลูกที่โดนรังแก
เช้าวันที่ 5 ตุลาคมนี้ นายอำนาจ สลับทอง อายุ 43 ปี อาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทรปัญญารามอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.วิระ งามเลิศ รอง ผกก.สส. สน.คันนายาว หลังจากนายณัฏฐา สุวรรณ บิดาเด็กชายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบ เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว กรณีลูกชายถูกนายอำนาจทำร้ายร่างกายด้วยการกระทืบหลายครั้งที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 4 ต.ค. ภายในบ้านเอื้ออาทรปัญญารามอินทรา ตึก 8 ถนนปัญญารามอินทรา
นายอำนาจกล่าวว่า พักอยู่ที่บ้านเอื้ออาทรปัญญารามอินทรามานาน 8 ปี ลูกชายอายุ 4 ขวบเพิ่งจะย้ายมาอยู่ด้วยเมื่อต้นปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ลูกชายอาศัยอยู่กับยาย ขณะที่ตนก็รู้จักกับนายณัฏฐา เจอหน้าก็ทักทายกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ต้องขอโทษและขอรับผิดชอบทั้งหมด ยืนยันได้ว่าขณะเกิดเหตุมิได้เครียดและไม่ได้ดื่มสุรา แต่ที่ทำลงไปเพราะความรักลูกชาย โดยที่ผ่านมาลูกเคยบอกว่าถูกเด็กชายหนึ่งแกล้งบ่อยครั้ง ถ้าย้อนเวลาได้ตนอยากจะกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนเมื่อคืนได้ไปนอนที่ปั๊มน้ำมันเพราะกลัวหลายๆ อย่าง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะปล่อยให้ลูกเล่นปกติ ถ้าเห็นลูกร้องไห้ก็จะพยายามดูแลให้ดี
หลังสอบปากคำพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายอำนาจ ทำร้ายร่างกายโดยเป็นการกระทำที่ทารุณโหดร้ายตามมาตรา 296 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หลังจากนี้จะนำเด็กชายหนึ่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้ง และเมื่อทราบผลการตรวจ พนักงานสอบสวนจะต้องนำมาพิจารณาว่าจะเข้าข่ายข้อหาใด หากผลออกมาว่าต้องรักษาอาการบาดเจ็บมากกว่า 20 วัน ก็จะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะ
พ.ต.ท.วิระกล่าวว่า คดีนี้จะต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือคดีที่นายอำนาจทำร้ายร่างกาย ด.ช.หนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ อีกคดีเป็นการทำร้ายร่างกายระหว่างเด็กทั้งสองคน ซึ่งตามกฎหมายหากเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี แม้จะมีการกระทำผิดจริงก็ไม่ต้องรับโทษ แต่ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเช่นกัน หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาแล้วก็จะปล่อยตัวนายอำนาจชั่วคราว เนื่องจากนายอำนาจไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และจะนัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ด้านนายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ได้ส่งนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาจากบ้านพักเด็กและครอบครัว กทม.ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเด็ก 7 ขวบที่ถูกทำร้าย รวมทั้งเด็กชายวัย 4 ขวบคู่กรณี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งช่วยเหลือดูแลเยียวยาสภาพจิตใจเด็กและครอบครัวทั้ง 2 ครอบครัวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งติดตามและประเมินสภาพครอบครัวอย่างต่อเนื่อง จนเด็กสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันในสังคมได้อย่างปกติ
"กรณีนี้นับเป็นการใช้ความรุนแรงในสังคม ซึ่งผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดและไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะความรุนแรงต่อเด็ก ซึ่งเด็กควรได้รับการดูแลคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีในลักษณะดังกล่าว ชุมชนควรมีส่วนร่วมไม่นิ่งเฉย โดยหากพบเห็นการใช้ความรุนแรงในเด็ก สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร.สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง" นายวิทัศน์กล่าว.
ขอบคุณ thaipost.net
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
