เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 กันยายน ที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมสอบสวน น.ส.วนิดา อินทร์บุดดี อายุ 24 ปี ชาว ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น กล่าวหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร" พร้อมรถยนต์เก๋งฮอนด้า บริโอ สีดำ ทะเบียน กร-6525 อุดรธานี กระเป๋าแบรนด์เนม 30 ใบ ราคารวม 500,000 บาท โน๊ตบุ๊ค 5 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง และอุปกรณ์งัดแงะ และเครื่องแบบตำรวจติดยศ ส.ต.ท. 1 ชุด
พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีคนร้ายลักทรัพย์ตามร้านขายโทรศัพท์มือถือ ร้านขายสินค้าราคาแพง ในเขตพื้นที่ สภ.เมืองอุดรธานี และใกล้เคียง ซึ่งก่อเหตุในช่วงเวลากลางคืน ขับรถยนต์วนหาร้านเป้าหมาย เมื่อพบเป้าหมายคนร้ายจะจอดรถบังหน้าร้าน จากนั้นจะลงมืองัดประตูหน้าร้านเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ก่อเหตุงัดร้านโตไกลลิสซิ่ง ขายกระเป๋าแบรนด์เนม บน ถ.โพศรี ทน.อุดรธานี ได้กระเป๋า 30 ใบ มูลค่า 500,000 บาท
"ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดติดตามคนร้าย พบคนร้ายมีรูปพรรณคล้ายกับ นายสมศักดิ์ แก้วคอนไชย ที่เคยตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในภาคอีสาน และยังมีหมายจับ ในท้องที่อื่นๆ อีกหลายหมายจับ จนเวลา 3 ทุ่มวานนี้ (8 ก.ย.) ตำรวจได้พบรถยนต์นายสมศักดิ์ฯใช้ก่อเหตุ จอดอยู่ที่ซอย.3 ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ทน.อุดรธานี จึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุม แต่นายสมศักดิ์ฯที่อยู่ในรถ ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจ 4 นัด ก่อนที่จะขับรถพุ่งเข้าใส่ตำรวจ และขับรถแหกวงล้อมหลบหนี"
พ.ต.อ.ชวิศฯ กล่าวอีกว่า ตำรวจตามคนร้ายไปทางซอยกำนัน ไปทางสี่แยกหนองใส ถ.รอบเมือง คนร้ายพยายามขับรถชนรถของตำรวจอีก ทางตำรวจจึงได้ยิงยางรถยนต์ ก่อนที่รถคนร้ายจะเสียหลักลงข้างทาง ซึ่งนายสมศักดิ์ฯ ได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีวิ่งเข้าป่าข้างทาง ที่บริเวนบ้านหนองใส ต.สามพร้าว ตำรวจได้นำกำลังเข้าทำการปิดล้อมอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัวนายสมศักดิ์ฯ ในรถพบหลักฐานเช่าห้องพักอยู่ ใน ซ.บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.เมือง เข้าตรวจค้นพบ น.ส.วนิดาฯ และของกลางจำนวนมาก
พ.ต.อ.ชวิศฯ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน น.ส.วนิดาฯ ให้การว่า ได้อยู่กินกับนายสมศักดิ์ฯ มาแล้ว 5 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน และนายสมศักดิ์ฯ บอกว่าอยากจะเป็นตำรวจ จึงไปสมัครเป็นตำรวจอาสาที่ จ.ขอนแก่น และหาซื้อชุดตำรวจติดยศ ส.ต.ท.มาใส่ ต่อมาทางตำรวจขอนแก่นจะดำเนินคดีในข้อหา แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกติดตามจับกุม และได้หลบหนีมาอยู่ที่ จ.อุดรธานี ได้ประมาณ 1 ปี และไม่มีงานทำ นายสมศักดิ์ฯ จึงออกตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ ล่าสุดเอากระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อหลุยส์วิตอง ไปขายที่ขอนแก่น ได้เงินมา 26,000 บาท
" ส่วนรถยนต์เป็นรถของภรรยาคนที่สอง อาศัยอยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู โดยนายสมศักดิ์ฯไปหลอกว่า ตัวเองเป็นตำรวจคบกันจนมีลูกอีก 1 คน และให้รถยนต์ของกลางมาใช้ โดยไม่รู้เลยว่านายสมศักดิ์ฯ เป็นโจร ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ มีผู้เสียหายมายืนยันของกลางแล้ว 5 ราย ส่วนนายสมศักดิ์ฯ ท่ยังหลบหนี ทางตำรวจจะขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มอีก และจะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วน น.ส.วนิดาฯ ก็จะส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินการตามกฎหมาย" พ.ต.อ.ชวิศฯ กล่าวในที่สุด
ขอบคุณเนื้อหาจาก :: matichon.co.th