ลูกค้าและพนักงานในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาเคหะธนบุรี ก.ม.8 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. นับสิบคน ต่างช็อกกับเหตุการณ์ ที่คนร้ายบุกยิงหญิงสาว ขณะเดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ภายในร้านจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล แม้จะรู้สาเหตุและตัวคนร้ายในเวลารวดเร็ว แต่การติดตามจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ผ่านมานานหลายวันยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้
ย้อนกลับไปเมื่อ 20.00 น. คืน วันที่ 10 ส.ค. ร.ต.อ.ธรรญธร รัศมี รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาเคหะธนบุรี ก.ม.8 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
หลังรับแจ้งเหตุร้าย ผู้กองหนุ่มรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร์ ผบก.น.9 พ.ต.ท.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศิริชาติ จันทร์พรมมา สว.สส. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ภายในร้านเซเว่นฯ ดังกล่าว บริเวณช่องระหว่างชั้นวางสินค้า พบร่างน.ส.ชลินธร วัฒนศัพท์ อายุ 34 ปี นอนหายใจรวยรินอยู่ ตรวจสอบเบื้องต้นพบหญิงสาวถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่ลำตัวรวม 4 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งร.พ.นครธน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เกาะคดียิงสาวในเซเว่น ตร.ระดมล่าหนุ่มมือฆ่า ปมฟ้องร้องแพร่คลิปลับ
พล.ต.ต.จิรพัฒน์เปิดเผยว่า จากการสอบถามพยานแวดล้อมและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 ราย รูปร่างผอม สูงประมาณ 180 ซ.ม. อายุประมาณ 30 ปี ผิวดำแดง ไม่ปกปิดใบหน้า ก่อนเกิดเหตุ ได้ทำทีมาซุ่มดูใกล้ที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา
กระทั่งเห็นน.ส.ชลินธรเดินเข้ามาภายในเซเว่นฯ คนร้าย จึงได้เดินเข้าไปในร้านก่อนใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่จนน.ส. ชลินธรล้มลง จากนั้นได้จ่อยิงซ้ำรวม 4 นัด บริเวณท้อง จากนั้นก็วิ่งหนีไปขี่จยย.ฮอนด้า สีเหลือง-เทา ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีมุ่งหน้าออกถนนพระราม 2
วันรุ่งขึ้น ที่สน.ท่าข้าม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 และพ.ต.อ.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เรียกประชุมชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติทราบว่าน.ส.ชลินธรเคยมีสามีและมีลูกสาววัย 7 เดือน 1 คน แต่ปัจจุบันได้เลิกกันไป แต่เมื่อชุดสืบสวนตรวจสอบแล้วพบว่า รูปพรรณไม่ตรงกับคนร้าย จึงต้องกลับมาตั้งต้นสืบสวนหาเบาะแสใหม่ จนทราบว่าหญิงสาวผู้ตายมีคดีฟ้องร้องอยู่กับนายพิชัย หรือ เบียร์ ตั้งจิต อายุ 34 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ตรวจสอบพบว่านายพิชัย อาศัยอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร
เมื่อไปตรวจสอบที่พักก็พบว่าหายไปแล้ว จึงนำภาพมาให้พยานดูและเปรียบเทียบกับภาพวงจรปิด จนได้รับการยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 511/2559 ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ไว้ก่อน มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้ รับอนุญาต"
แนวทางสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายยังหลบหนีอยู่ในจังหวัดใกล้เคียง จากการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุ จับภาพคนร้ายได้ไปจนถึงหน้าซอยพระราม 2 ซอย 60 แต่เนื่องจากบริเวณหน้าซอยดังกล่าวไม่มี กล้องวงจรปิดจึงทำให้การติดตามภาพคนร้ายไม่ต่อเนื่อง
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า แนวทางการสืบสวนพบว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาส่วนตัว โดยนายพิชัยและน.ส.ชลินธร รู้จักกันตั้งแต่ปี 2557 ภายหลังได้มีปัญหาส่วนตัวกัน ก่อนเกิดเหตุนายพิชัยพูดเปรยกับคนใกล้ชิดว่าจะใช้วิธีตั้งศาลเตี้ยเพื่อดำเนินการ โดยเรื่องต้องขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
จึงเชื่อว่ามีการเตรียมการมาก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ฝากไปยังคนใกล้ชิดให้บอกผู้ต้องหาให้เข้ามอบตัวโดยเร็ว เชื่อว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้
จากข้อมูลชุดสืบสวนทราบว่า นายพิชัยเป็นครูสอนว่ายน้ำของลูกสาวน.ส.ชลินธร ก่อนที่ทั้งคู่จะมีสัมพันธ์กัน โดยนายพิชัยได้แอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ก่อนจะใช้แบล็กเมล์น.ส.ชลินธร สุดท้ายได้นำคลิปออกเผยแพร่ กระทั่งน.ส.ชลินธรต้องเลิกรากับสามี
เจ้าตัวจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพิชัย ที่สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รวมถึงมีคดีทำร้ายร่างกายกันด้วย ซึ่งคดีความของนายพิชัยทางศาลใกล้จะพิจารณาตัดสิน น่าจะทำให้นายพิชัยเกิดความเครียดจึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุสยอง ดังกล่าว
ก่อเหตุอุกอาจ ไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดินเสียขนาดนี้ เชื่อว่าตร.ต้องพยายามไล่ล่ากดดันทุกทาง เพื่อจับกุมตัวมาลงโทษจนได้
ขอบคุณเนื้อหาและภาพประกอบจาก :: khaosod.co.th