หลอกสาวไทยไปเกาหลี บังคับขายบริการคืนละ7คน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม หลอกสาวไทยไปเกาหลี บังคับขายบริการคืนละ7คน
ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม.เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ (ศปก.พม.) โดยทางศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 รายงานให้ พล.ต.อ.อดุลย์ และที่ประชุมรับทราบว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ช่วยเหลือสังคมได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า ให้ความช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี พร้อมหญิงไทย 2 ราย ที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณี ที่เมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว และส่งกลับด้วยเครื่องบินเที่ยว TW 1010 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 00.10 น.ของวันเดียวกัน
จากนั้น น.ส.พัชรี แนวพานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (ศชส.) พร้อมนักสังคมสงเคราะห์ ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ผู้เสียหายที่ บก.ปคม. จากการสัมภาษณ์ ทราบว่า น.ส.เอ เดินทางไปพร้อมกับเพื่อนชื่อ น.ส.หน่อย (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี เนื่องจากคนรู้จักของ น.ส.หน่อย ที่ชื่อ น.ส.แดง ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงเป็นผู้ชักชวนและติดต่อให้เดินทางไปทำงาน บอกว่ามีงานเสิร์ฟอาหารและนวดแผนไทย รายได้เดือนละ 1 แสนบาท น.ส.หน่อย สนใจจึงชวน น.ส.เอ ไปด้วยกัน โดยมีเอเจนซี่ชื่อนิว เป็นหญิงไทยเป็นผู้บอกขั้นตอนในการเดินทางว่าต้องทำอย่างไร ไปติดต่อใครตรงจุดไหน ทั้งนี้ ได้นัดหมายรับตั๋วและเดินทางที่สนามบินดอนเมือง
กระทั่งเดินทางไปถึงประเทศเกาหลีใต้ พบว่า น.ส.เอ และ น.ส.หน่อย ถูกคนคุมยึดหนังสือเดินทาง จำกัดบริเวณไม่ให้ออกจากห้องพักในเมืองแทกู ให้รับประทานอาหารเพียงวันละ 2 มื้อ และต้องขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าชายเกาหลีวันละ 7 คน ทั้งนี้ น.ส.เอ และ น.ส.หน่อย ทนไม่ไหวจึงพยายามติดต่อญาติผ่านแชทในเฟซบุ๊กเพื่อขอให้ช่วยเหลือ ญาติโทรมาแจ้งที่สายด่วน 1300 เจ้าหน้าที่ ศชส.จึงแอดไลน์ไปเพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยทางศชส. จึงประสานข้อมูลไปยังกรมการกงสุล กองต่อต้านการค้ามนุษย์ และตำรวจสากล เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ
น.ส.เอ แจ้งว่า คนคุมดังกล่าวมี 2 คน ข่มขู่ว่ารู้จักกับตำรวจเมืองแทกูเป็นอย่างดี ทำให้ น.ส.เอ เกิดความกลัว ประกอบกับคนคุมหันเหความสนใจไปยังตำรวจที่เข้าตรวจค้นที่พัก น.ส.เอ และ น.ส.หน่อย จึงหลบหนีออกมาจากที่พักและเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทยในกรุงโซล ก่อนจะได้รับการส่งกลับโดยถือเอกสาร CI
ทั้งนี้ภายหลังการสัมภาษณ์แล้ว แม้ น.ส.เอ และ น.ส.หน่อย เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และได้รับการแจ้งสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง แต่ทั้งสองไม่ประสงค์เข้ารับการคุ้มครองในหน่วยงานสังกัด พม. จึงดำเนินการส่งผู้เสียหายขึ้นรถตู้โดยสารประจำทางกลับไปพักที่จังหวัดในภาคกลาง เช่นเดิม