เร่งขอข้อมูลมาเลย์ปมซัมซุงฮีโร่ประกอบบึ้มซื้อจากมาเลย์

วันที่ 14 ส.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุการณ์ในหลายพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เจ้าหน้าที่ได้พบว่าโทรศัพท์ที่ใช้ก่อเหตุในทุกจุดเป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง ฮีโร่ รุ่น E1200 โดยพบว่ามีสติ๊กเกอร์สามเหลี่ยม มีตัวหนังสือเล็กๆ ว่า MCMCŽ ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ของ Malaysia communication and multimedia commissionŽ สันนิษฐานว่า เป็นโทรศัพท์ที่ซื้อมาจากประเทศมาเลเซีย โดยใช้ตั้งเวลาเป็น Pipe bomb นอกจากนี้ยังพบเพาเวอร์แบงก์ ที่ใช้พ่วงในการ Spark ให้เกิดประกายไฟคล้ายกับระเบิดที่เคยกู้ได้ที่จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ทางทีมสืบสวนสอบสวนกำลังประสานกับตำรวจมาเลเซียเพื่อขอข้อมูล เพื่อขยายผลถึงผู้ซื้อ และรอข้อมูลจากตำรวจ

ด้านเว็บไซต์นิวสเตรทไทม์ส ของมาเลเซีย รายงานว่า ตำรวจมาเลเซียได้รับชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการก่อเหตุระเบิดที่ จ.ภูเก็ต จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยแล้ว โดยชิ้นส่วนพร้อมซีเรียลนัมเบอร์จากมือถือนี้ เป็นหลักฐานสำคัญในการตรวจสอบเพื่อระบุตัวตนและตามรอยของผู้ที่ก่อเหตุระเบิดในประเทศไทย โดยมือถือดังกล่าวใช้สำหรับการจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง ที่ใช้ในการก่อเหตุระเบิดต่อเนื่องทางตอนใต้ของไทยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่นายตัน ศรี คาลิด อาบู บาคาร์ จเรตำรวจมาเลเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวเบอร์นามา ของมาเลเซียว่า ตำรวจมาเลเซียได้รับชิ้นส่วนของมือถือที่มีซีเรียลนัมเบอร์ของบริษัท มาเลเซีย คอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ มัลติมีเดีย คอมมิชชั่น (เอ็มซีเอ็มซี) แล้ว และพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทางการไทยในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

ตร.ชี้ที่จับมาเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย

ด้านพล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ พนักงานแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางอ่าวไทยนั้นเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะมีภาพอยู่ในกล้องวงจรปิดที่เข้ามาอยู่ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะต้องสอบสวน ส่วนจะควบคุมตัวกี่วันนั้นเป็นอำนาจของทหาร ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์ลอบวางระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้นั้นมีความคืบหน้าไปมากเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก เพราะมีหลักฐานที่จะสามารถติดตามคนร้ายได้

ด้านนายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า สำหรับนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ เป็นพนักงานของบริษัท Weatherford KSP จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างเหมาบริการของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจ และผลิต จำกัด โดยบริษัท เชฟรอนฯ แจ้งว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของพนักงาน เมื่อรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีบุคคลต้องสงสัยก็อำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อจับกุมบุคคลดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นปฏิบัติงานอยู่ที่แท่นขุดเจาะ T2 และนำตัวกลับฝั่งเพื่อสอบสวนต่อไป