พ.ต.ต.สุนันทร์ สังข์สวัสดิ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุเกิดระเบิดภายในตลาดเซ็นเตอร์พ้อยท์ เขตเทศบาลนครตรัง ห่างจากศาลากลาง จ.ตรัง ประมาณ 100 เมตร และอยู่ตรงกันข้ามกับสำนักงานกกต.ตรัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังช่วยชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากที่กำลังรอตั้งร้านเพื่อขายของ บรรยากาศเป็นไปอย่างโกลาหล ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรังจะเร่งทยอยนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ได้กันพื้นที่บริเวณดังกล่าวเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับอันตราย
ที่โรงพยาบาลตรัง ได้รับผู้บาดเจ็บไว้ทั้งสิ้น 5 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้า ที่ประกอบอาชีพค้าขายอยู่ที่ตลาดดังกล่าวประกอบไปด้วย
1.นายณัฐพงษ์ แซ่โหล้ย 19 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวา และแผ่นหลัง
2. น.ส.วิไลรัตน์ ฟ้องบางชัย อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกส้นเท้าซ้ายแตก
3.นายหะหมะ หมันหลี 43 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่เข่าขวา
4.จ่าเอกพิเชิด วิริยานุภาพพงษ์ อายุ 51 ปี มีแผลบริเวณแผ่นหลัง (เสียชีวิตในเวลาต่อมา)
5. นางวัทนี วิริยานุภาพพงษ์ อายุ 45 ปี มีแผลที่หน้าอกด้านซ้าย
ที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ได้รับผู้บาดเจ็บไว้2คน คือ 1. น.ส.สุนิษา พันธ์นภา อายุ 39 ปี มีแผลต้นขาขวา และ2.น.ส.รุ่งทิพย์ คงพินิจกิจ อายุ 55 ปี มีแผลที่ขา มือ และต้นขา
พยานซึ่งเป็นแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดตอนบ่าย 3 โมงตรง ขณะนั้นพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่กำลังเตรียมที่จะเปิดร้านขายของ จุดที่เกิดระเบิดนั้นอยู่ตรงศาลาที่นั่งพักริมทาง ซึ่งมีคนนั่งอยู่ประมาณ 7-8 คน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และมีคนล้มฟุบกองอยู่กับพื้น ส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด สังเกตว่าเสียงที่ดังน่าจะมาจากมีคนเอามาวางไว้เหมือนกับตั้งเวลาไว้ ล่าสุด นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และพล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตรัง ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว
พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิการนนท์ ผกก.สภ.เมืองตรัง เปิดเผยว่า จากแนวทางสืบสวนเชิงลึกยืนยันว่า ไม่ใช่คาร์บอมบ์ แต่เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ชายต้องสงสัยนำระเบิดมาวางไว้
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เร่งดำเนินการสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุและความเชื่อมโยงกับทุกกลุ่มที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเฝ้าระวังและตื่นตัวต่อมาตรการป้องกัน ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ จากการรายงานเบื้องต้นไม่พบความเชื่อมโยงกับการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคาดว่าเป็นความขัดแย้งของกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่
อย่างไรก็ตามในขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทุกคนกำลังทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศในภาพรวม จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ได้ร่วมกันทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังดูแลความสงบสุขในสังคมร่วมกัน หากพบเหตุการณ์ผิดปกติขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐทันที เพื่อร่วมกันดูแลความสงบสุขของประเทศในภาพรวม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
