หมายเรียก ‘หมอเปรม’รับทราบข้อหาหมิ่นสื่อฯ-ผิดพรบ.คอมฯ

ต่อมาผวจ.ขอนแก่นสั่งสอบนพ.เปรมศักดิ์ หากผิดจริงชงรมว.มหาดไทยปลดออกจากตำแหน่ง ขณะที่นักข่าวรุดแจ้งตำรวจเอาผิด ฐานกักขังและข่มขืนใจ ส่วนหมอเปรมศักดิ์ยื่นร้องนายกฯ และกสทช. ให้ใช้อำนาจปิดสื่อมวลชนที่ทำข่าวตัวเอง แต่ยอมรับว่าภาพคู่กับนักเรียนม.5 นั้นเป็นรูปของตัวเองจริง ล่าสุดตร.แจ้ง 2 ข้อหา หมอเปรมฐานกักขังและข่มขืนใจ หลังจับนักข่าวแก้ผ้า แต่เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา เจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วปล่อยตัวไป ส่วนชาวบ้านไผ่ร้องผู้ว่าฯ ขอนแก่น จี้ให้หมอเปรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมสอบเอาผิดถึงปมคุกคามสื่อ-ปลด พนง.เทศบาลไม่เป็นธรรม ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวันที่ 31 ก.ค. พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองบ้านไผ่ จากการโพสต์ภาพและข้อความกล่าวหาสมาคมสื่อมวลชน รับเงิน 5,000 บาท จากนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีต ส.ว.ขอนแก่น แต่ภาพดังกล่าว นายกสมาคมสื่อฯ เป็นผู้มอบเงินให้กับ นางระเบียบรัตน์ เพื่อร่วมสมทบกองทุนเฉลิมพระเกียรติช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ในพิธีทอดผ้าป่ามหากุศล เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา

โดยในวันนี้ พ.ต.ท.ถวัลย์ สุทธาวรัตน์ รองผู้กำกับการฝ่ายสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น หัวหน้าชุดสอบสวนในคดีนี้ กล่าวว่า ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานที่อยู่ในวันดังกล่าวไปแล้วจำนวน 4 คน และในวันนี้เวลาประมาณ 15.00 น. นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมเตรียมเรียกพยานที่อยู่ภายในงานพิธีมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะรวบรวมสำนวนและรอผลจากกระทรวงไอซีที จากนั้น จะเร่งสรุปให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า ก่อนจะออกหมายเรียกเปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ มารับทราบในข้อหาหมิ่นประมาท และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 

ด้าน นายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ไม่กดดันจากการเป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดเน้นย้ำและกำชับว่า จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้ และให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาไม่ต้องกลัวใครและตนเองก็ไม่กลัวใครด้วย ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มีทั้งหมด 3 คนประกอบด้วยตนเอง, ผู้ช่วยท้องถิ่นจังหวัด และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้มีความสมบูรณ์และความคืบหน้าทางการสอบสวนไปมาก

มั่นใจว่าจะมีการสรุปสำนวนการสอบสวนแล้วเสร็จตามที่ ผู้ว่าฯกำหนดเพื่อที่จะสรุปส่งเรื่องให้กับ ผู้ว่าฯ วินิจฉัยและสรุปเรื่องต่อไปยัง รมว.มหาดไทย พิจารณาต่อไป เพราะอำนาจหน้าที่ในการเอาผิด อำนาจารปกครอง ตามพ.ร.บ.เทศบาล ใน มาตราที่ 71, 72 และ73 อำนาจสูงสุดในการปกครอง และสืบสวนสอบสวนเอาผิดในส่วนของเทศบาลนั้น ขึ้นอยู่กับรมว.มหาดไทยเพียงคนเดียว ขณะที่ในเวลา 15.00 น. ได้เรียกพนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่จำนวน 2 คน ให้เข้ามาพบเพื่อให้ข้อมูลในเรื่องที่นพ.เปรมศักดิ์ กักขังผู้สื่อข่าวในห้องทำงาน