ช่วงค่ำวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ร่วมสอบปากคำ นายคงกระพัน สังข์มีน้อย อายุ 21 ปี นายธวัชชัย บุบผามะตะนัง อายุ 28 ปี นายเขตตะวัน วิวัฒนานนท์ อายุ 21 ปี และนายคณากร ทองเอม อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุรุมโทรม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปีนักศึกษาโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง จนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งเหตุพบหญิงสาวอายุ 19 ปี เสียชีวิตในห้องพักตรวจสอบพบว่าเป็นนักศึกษาโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง เบื้องต้นแพทย์ชันสูตรว่า ไม่พบร่องรอยการทำร้าย ผู้ตายอยู่บนที่นอน หัวใจล้มเหลว ในที่เกิดเหตุพบขวดสุรา ข้าวของกระจุยกระจาย จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน โดยพบว่า นายเขตตะวัน และนายคณากร ได้รอมอบตัวอยู่ด้วย
เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนกล้องวงจรปิดในโรงแรมพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเข้ามาให้ห้องพักพร้อมกับชายวัยรุ่นอายุ ระหว่าง 19-30 ปี 4 คนโดย 2 ใน 4 คือนายเขตตะวัน และนายคณากร จึงเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือจนสามารถติดตาม นายคงกระกัน และ นายธวัชชัย ได้ ก่อนรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ และพล.ต.ต.เจริญ เดินทางเข้าสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การปฎิเสธ แต่เมื่อทำการสอบสวนอย่างเข้มข้น
จึงยอมรับสารภาพว่าเพิ่งรู้จักกับผู้ตายได้เพียง 2 วัน ก่อนเกิดเหตุจึงได้ชักชวนมาร่วมปาร์ตี้กันในโรงแรม
พอเมาได้ที่ก็เริ่มมีเพศสัมพันธ์กัน โดยผลัดเปลี่ยนกันร่วมหลับนอน กระทั่ง น.ส.เอ เสียชีวิต
แต่ไม่ได้ข่มขืนฆ่าแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้งข้อหา
"ร่วมกันข่มขืนผู้หญิงที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และร่วมกันโทรมหญิงจนถึงแก่ความตาย"ก่อนควบคุมตัวส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน ญาติของ นางสาวเอ ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง เดลินิวส์ ยืนยันว่า นางสาวเอ ถูกล่อลวงและโดนมอมยา
ว่า คำให้การของผู้ต้องหาตามที่นายตำรวจให้ข่าวนั้น อาจทำให้หญิงสาวที่เสียชีวิตเกิดความเสียหายได้ โดยข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น ทางพนักงานสอบสวนมีหลักฐานเป็นภาพวงจรปิด ที่เห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้พาหญิงสาวซึ่งขณะนั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เข้าไปในโรงแรมดังกล่าว คาดว่าน่าจะถูกมอมเหล้าหรือมอมยามาก่อน ไม่ได้นัดเข้าไปในโรงแรมตามคำกล่าวอ้างที่ให้การไว้แต่แรก
ทั้งนี้อยากให้สังเกตคำให้การที่ระบุว่า "เหยื่อ" เต็มใจเข้าโรงแรมเองนั้น ก็เพราะต้องการเบี่ยงเบนประเด็น ว่าเป็นลักษณะสมยอมดังนั้นทางญาติจึงต้องออกมาโต้แย้ง ขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตาย.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
