191รวบหนุ่มแต่งเลียนตร. ขับเก๋งนำขบวนรถโดยสาร

191รวบหนุ่มแต่งเลียนตร. ขับเก๋งนำขบวนรถโดยสาร

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.พรพรหม จักษุรักษ์ รอง ผกก.สายตรวจ ร่วมกันตรวจสอบกรณี พ.ต.ท.ปียรัช เวชสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3 และเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ สามารถควบคุมตัวนายวรวุฒิ ธรรมมัง อายุ 52 ปี ที่อยู่ 64/1 หมู่ 1 แขวงและเขตจอมทอง กทม. พร้อมของกลางรถโตโยต้า แคมรี่ สีดำ ทะเบียน ฎม 7356 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างติดสติ๊กเกอร์สีชมพู หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม 191 อารักขา คล้ายกับสติ๊กเกอร์ของตำรวจนครบาล ติดสัญญาณไฟวับวาบสีแดง และด้านข้างรถมีหมายเลขโทรศัพท์ 191 โดยจับกุมได้กำลังนำขบวนรถบัสไม่ทราบภารกิจ บริเวณริมถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัตนา กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา

จากการตรวจค้นภายในรถพบวิทยุสื่อสาร 3 เครื่อง ชุดเครื่องแบบที่แขนเสื้อติดอาร์มข้อความ "ตำรวจนครบาล" และ "ฝ่ายปฎิบัติการพิเศษ" 3 ชุด บัตรประจำตัวชุดปฎิบัติ ฝ่ายสนับสนุนพิเศษเฉพาะกิจ 1 ฉบับ บัตรประจำตัวตำรวจและท่องเที่ยว 1 ฉบับ และบัตรสื่อมวลชน รหัส ทศกัณฑ์ 2507 จำนวน 1 ฉบับ


191รวบหนุ่มแต่งเลียนตร. ขับเก๋งนำขบวนรถโดยสาร

พ.ต.ท.ปียรัช กล่าวว่า ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ จนมาถึงจุดเกิดเหตุ พบรถคันดังกล่าวกำลังวิ่งนำขบวนกลุ่มรถโดยสารไม่ทราบเส้นทางและภารกิจ จึงทำการเรียกตรวจสอบ พบนายวรวุฒิแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ชายดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ชอบแต่งกายที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังมีพฤติกรรมที่แสดงให้ดูคล้ายตำรวจอีกด้วย โดยผู้ต้องหาจะมีอาชีพรับจ้างขับรถนำขบวนรถบัสโดยสารต่างๆ ที่มีการว่าจ้าง และชอบขับรถไปมาในพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ผู้อื่นเขัาใจผิดคิดว่าเป็นตำรวจ ซึ่งภายหลังทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลทราบเรื่อง จึงได้สั่งให้ดำเนินการเอาผิดทันที

เบื้องต้นจึงได้แจ้งเอาผิด 3 ข้อหา คือ "แต่งกายโดยใช้เครื่องแบบแต่งกายคล้ายตำรวจ โดยทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจ พยายามแต่งกายเลียนแบบตำรวจ, ติดตั้งสัญญาณไฟวับวาบโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.ธรรมศาลา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์