กลายเป็นประเด็น เขย่าวงการสงฆ์ ขึ้นมาอีกระลอก หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ออกมาแถลง เตรียม เรียก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มารับทราบ 2 ข้อกล่าวหา
เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีไว้ในโรงอุตสาหกรรมหรือในคลังสินค้าทัณฑ์บน" ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2527 มาตรา 161 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83
2. "ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน
ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย,ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือ เอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สาหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 , 267 ประกอบมาตรา 83
หลังจากปรากฎชื่อ สมเด็จช่วง ครอบครอง รถยนต์โบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99
หลายคนสงสัย ที่มาที่ไปของยนต์ คันดังกล่าวว่าเริ่มต้น จากจุดใด ใครเกี่ยวข้อง ใครต้นเรื่อง ไปอยู่ในการครอบครอง ของสมเด็จช่วง ได้อย่างไร??
จากการตรวจสอบ แผนผังเส้นทางการนำรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมทั้งความเชื่อมโยงของบุคคล ตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้อง กับดดีดังกล่าว ที่ดีเอสไอได้สรุปย่อ แผนผังในการแถลงข่าว ค่อยข้างละเอียดและน่าสนใจ
จุดเริ่มต้น รถเบนซ์คันดังกล่าว ....เมื่อช่วงประมาณต้นปี 2553 นายเกษมศักดิ์ ภวังคนันท์ นำรยนต์ Mercedes Benz W186 รุ่น 300b Cabriolet ซึ่งปรากฎ เลขตัวรถ 186.014.00420/53 สีขาวเลขเครื่องยนต์ 186.920.45005/52จานวน 6 สูบ 2996 cc มาฝากไว้ที่อู่วิชาญ วินเทจ การาจ แต่สภาพบางส่วนไม่ค่อยสมบูรณ์ ทั้งโครงสร้างและเอกสาร