จากกรณีที่มีคลิปเหตุการณ์ หนุ่มใหญ่แต่งกายทหารเต็มยศ ได้พูดจาข่มขู่จะอุ้มหญิงสาวร้านขายเสื้อผ้าว่าจะอุ้มขึ้นรถ แล้วอย่าร้องขอชีวิต หลังจากที่ได้มีคลิปดังกล่าวแพร่กระจายในสื่อสังคมออนไลน์ จนตกเป็นประเด็นข่าวที่กล่าวถึงความไม่เหมาะสมกับคำพูดของหนุ่มใหญ่ที่อ้างตัวเป็นนายทหารคนนั้น
ล่าสุดทราบแล้วว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าว คือ สัสดีจังหวัดยะลา ประจำกองร้อย อส. กอ.รมน.จว.ยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) โดยทางผู้เสียหาย คือ นางสาวเอ (นามสมมุติ) น้องสาวที่สัสดีจังหวัดยะลาไปจีบ
นางสาวโสภิดา สุดสงวน และ สิบตำรวจโทสราวุฒิ ลักษณาวิบูลย์กูล สองสามีภรรยา เจ้าของร้าน ซึ่งอยู่ร่วมในเหตุการณ์วันดังกล่าว ได้เล่าให้ฟังว่า "สัสดี คนดังกล่าว ได้มาวนเวียนอยู่ที่ร้าน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.59 โดยได้มาเดินวนเวียนไปมา และมองน้องสาวที่อยู่ภายในร้าน ก่อนที่จะชวนพูดคุยสอบถามว่า ทำงานอยู่ที่นี้เหรอ ไม่กลัวหรืออย่างไร โดยที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน หลังจากนั้น วันที่ 15 ก.ค.59 ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า สัสดี คนดังกล่าวก็มาอีกครั้งโดยครั้งนี้ สวมเครื่องแบบเต็มยศ มาพูดคุยโอ้อวดจะฝากงานให้น้องสาวทำเป็นทหารหญิง ได้ทำงานสบายนั่งห้องแอร์ ซึ่งเคยฝากมาแล้วหลายคน จากนั้น ตนเอง ก็ออกมาพูดคุยและถามตรงๆ ว่า งานอื่นมีไหม ที่ไม่ต้องฝาก สัสดีคนดังกล่าว ก็บอกว่าทำงานทหารเท่ห์จะตาย มีหนุ่ม ๆ มาจีบเยอะแยะ ซึ่งนางสาวโสภิดา ก็เลยถามตรงๆ ว่าจะมาจีบน้องสาวตนเองหรืออย่างไร จากนั้น ก็เกิดปากเสียงกันขึ้น กล่าวหาว่า พูดจาไม่ให้เกียรติ และหลังจากนั้น สัสดีคนดังกล่าว ก็พูดจาข่มขู่ จะสั่งลูกน้องมาวางระเบิดที่ร้านบ้าง จะสั่งลูกน้องมาอุ้มขึ้นรถไปบ้าง แล้วอย่าร้องขอชีวิต ตามคลิปที่พี่ชายได้บันทึกไว้ได้" นางสาวโสภิดา กล่าว
ส.ต.ท.สราวุฒิ ลักษณาวิบูลย์กูล ผู้เป็นสามี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เปิดร้านมา ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งเสียความรู้สึกกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ แล้วยังเป็นนายทหารยศระดับนายพันอีกด้วย มาข่มขู่ ทำตัวกร่างกับชาวบ้าน แล้วชาวบ้านจะฝากชีวิตไว้กับใคร ซึ่งขณะนี้ตนเอง และน้องสาวยังไม่ได้เปิดร้าน เพราะหลังเกิดเหตุการณ์ ก็ยังคงหวาดกลัวอันตราย และขอดูสถานการณ์ไปก่อน ซึ่งอยากฝากให้ผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชา ช่วยตรวจสอบ บุคคลที่ลงมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากให้คนแบบนี้ลงมาทำงาน ก็จะยิ่งสร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่ และเกิดความอับอายต่อองค์กรเอง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ และสืบประวัติ ทหารยศพันเอก คนดังกล่าว ก็ทราบว่า ได้ย้ายมาจากจังหวัดชุมพร ด้วยปัญหาในลักษณะเดียวกัน อีกทั้งชอบทำตัวโอ้อวด สร้างภาพ ชอบที่จะแจกนามบัตรให้กับหญิงสาวที่ดูดี ตามอย่างที่คุยโอ้อวดว่ามาผู้หญิงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คน ซึ่งขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยพลโท วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ทราบเรื่องดังกล่าว และให้สั่งย้ายสัสดีคนดังกล่าว ออกนอกพื้นที่ไปก่อนภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ทางกองทัพตั้งขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที หากผิดจริงก็จะมีคำสั่งออกมาภายหลัง จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นจะไม่มีการเข้าข้างคนผิดอย่างแน่นอน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
