
"อธิบดีดีเอสไอ" ยัน ทำคดีรถโบราณ "สมเด็จช่วง" มาตรฐานเดียวกับรถหรูคันอื่นๆ ระบุ แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้อง 3 ขั้นตอนการนำเข้าแล้ว 3 ราย
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรถโบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม99 ที่มีชื่อของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว ว่า จากปี 2556 ดีเอสไอมีการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์จำนวนหลายคัน ซึ่งพยานหลักฐานต่างๆก็เริ่มครบถ้วนและเราก็ได้ดำเนินคดีไปบ้างแล้ว ส่วนการกระทำผิดแต่ละคดีอาจจะมีรายละเอียดเล็กน้อยที่แตกต่างกันไป แต่ในกระบวนการทุกอย่างใกล้เคียงกัน ดังนั้น การทำคดีของดีเอไสอก็จะทำในมาตรฐานเดียวกัน เราคงทำหลายมาตรฐานไม่ได้ โดยกฎหมายว่าอย่างไรและข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องดำเนินคดีตามนั้น อีกทั้ง คดีของรถยนต์มันเกี่ยวข้องกับเอกสารด้วย พยานเอกสารใดเท็จ เอกสารใดจริงทุกอย่างมันก็จะปรากฎตามสำนวน ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่มีเหตุที่จะให้ทำสองมาตรฐาน ดังนั้น คดีทั้งหมดก็ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบรถโบราณของสมเด็จช่วงนั้น ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ที่เหลืออยู่บางส่วนนั้น อยู่ระหว่างรอเอกสารสำคัญจากต่างประเทศ และก็รอการคำนวนภาษีที่ยังขาดอยู่ เมื่อได้หลักฐานครบถ้วนแล้วเราจะสรุปสำนวนการสอบสวน ทั้งนี้ หลังจากสรุปผลการสอบสวนแล้ว สมเด็จช่วงจะมีความผิดหรือไม่นั้น ตนจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งต้องรอเอกสารให้ครบถ้วนก่อน อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการทั้งหมดจะค่อนข้างคล้ายกันคือมีการนำรถเข้ามาและก็ทำเอกสารการนำเข้าเครื่องยนต์กับตัวถังและทำการจดทะเบียนกับกรมสรรพสามิต เพื่อให้ครบองค์ประกอบของรถยนต์จดประกอบ หลังจากนั้น ไปจดทะเบียนกับกรมขนส่ง ซึ่งขบวนการทั้งหมดเกี่ยวกับคดีรถที่เราตรวจสอบนั้นส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมคล้ายกัน
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา เรามีการตรวจสอบตั้งแต่กระบวนการนำเข้า จดทะเบียนสรรพสามิต และจดทะเบียนกรมขนส่ง มีการกระทำผิดทั้งทำเอกสารเท็จและแจ้งความเท็จ เราดำเนินคดีและออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว 3 ขั้นตอนทั้งหมด
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีรถยนต์หรู กล่าวว่า ดีเอสไอได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 3 คน คือ 1.นายชลัส ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการนำเอกสารชุดประกอบรถยนต์ไปชำระภาษีสรรพสามิต 2.นายเกษมศักดิ์ ภวังคนันท์ หรือ อ๊อด ซึ่งเป็นเจ้าของหจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส และ 3.นายสมนึก บุญประไพ เป็นผู้นำเอกสารไปยื่นกับกรมขนส่ง ทั้งนี้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมได้ 1ราย คือนายชลัส ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอได้ออกหมายจับไว้แล้ว
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว