รวบนายร้อยปลอม!! อ้างเคยตามขบวนเสด็จ แถมยังทำเลวกับสาว 4 คนแบบนี้ !??

รวบนายร้อยปลอม!! อ้างเคยตามขบวนเสด็จ แถมยังทำเลวกับสาว 4 คนแบบนี้ !??

ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 7 สนธิกำลังจับสองผู้ต้องหา แต่งกายเป็นทหาร แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง หลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อ สูญเงินจำนวนมาก 


ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังเข้าจู่โจมห้องพักของนายภาคิน จักรกาบาตร์ ที่คอนโดหรูย่านสนามบินน้ำ นนทบุรี พร้อมกับยึดของกลางทั้งเครื่องแบบทหาร เข็มติดยศ เอกสารข้าราชการ และสิ่งลามกอนาจารไปตรวจสอบ ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบทราบมาว่า นายภาคินมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นนายทหารติดตามขบวนเสด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร ทำให้คนหลงเชื่อตระเวณหลอกหญิงสาวให้หลงรัก แล้วปลอกลอกเอาเงินและทรัพย์สินไป

นายภาคิน ยอมให้จับแต่โดยดี ไม่ขัดขืน สารภาพสิ้นใฝ่ฝันอยากเป็นนายทหาร จึงหาซื้อเครื่องแบบและยศมาสวมใส่ ตั้งแต่ยศร้อยตรีจนถึงยศพันตรี โดยไม่มีใครสงสัย เพราะทุกวันจะแต่งเครื่องแบบทหารออกจากบ้านเหมือนไปทำงานตามปกติถ่ายรูป ตัดต่อภาพให้ดูเสมือนจริงที่ผ่านมาเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาหลายครั้ง อ้างเป็นลูกบุญธรรมพลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร ทำให้สาวๆ หลงเชื่อ ซึ่งตนเองเคยมีภรรยามาแล้ว 4 คน ทั้งหมดไม่เคยรู้เลยว่า สามีตนไม่ใช่ทหารตามที่กล่าวอ้าง

แฟนสาวนายภาคินถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก เมื่อรู้ความจริงว่า ชายคนรักที่เพิ่งจะคบหาไม่กี่เดือน และพร่ำบอกเสมอว่า เขาคือนายทหาร ที่แท้ก็จอมลวงโลกเธอสูญเงินไป 60,000

ไม่ต่างจากเพื่อนข้างห้องและเจ้าหน้าที่คอนโดแห่งนี้ ก็ถึงกับตกใจ เมื่อรู้ว่านายภาคินโดยจับ หมดสภาพนายทหารหนุ่มที่เคยเห็น

จากนั้นตำรวจก็พาผุ้ต้องหาไปค้นบ้านภรรยาคนที่ 2 ที่ท่าอิฐนนทบุรี พบรูปถ่ายที่นายภาคินสวมเครื่องแบบทหารติดตามผนังหลายจุด จึงนำมาตรวจสอบขณะที่ภรรยาถึงกับหน้าถอดสีไม่นึกว่าสามีจะกุเรื่องหลอกคนในครอบครัว ที่สำคัญเพิ่งรู้ด้วยว่าเงินที่นำมาก่อสร้างบ้านหลังนี้ มาจากนายภาคินไปฉ้อโกงพ่อตาคนปัจจุบัน

ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพ่อตาของนายภาคิน แจ้งตำรวจว่านายภาคินลักทรัพย์ หลอกเอาเงินครอบครัวไป 7 ล้านบาท อ้างนำไปทำธุรกิจ ตำรวจจึงแจ้งหาหาทั้งลักทรัพย์ แต่งกายเลียนแบบทหาร ปลอมแปลงเอกสารทางราชการและแอบอ้างสถาบัน ผิดมาตรา 112

อีกรายเช่นเดียวกัน มีเจ้าทุกข์ แจ้งความว่า ถูกนายชยพล พัสวีวรโชติ หลอกลวงว่า เคยเป็นอดีตนายทหารทำงานในวัง มีเส้นสาย วิ่งเต้น สามารถช่วยเหลือเข้าทำงานตามหน่วยงานต่างๆ จนคนในพื้นที่เรียกกันว่า "เสธพล"

ตำรวจส่งกำลังแฝงตัวติดตามพฤติกรรมจนมั่นใจว่า นายชลพล ทำผิดจริง จึงรวบตัวมาสอบเพิ่มที่กองปราบปราม

นายชพพล ยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่เคยแอบอ้างเป็นนายทหารเรียกรับผลประโยชน์ ตนเองโดยคู่กรณีกลั่นแกล้ง ส่วนชื่อเรียก "เสธพล" ก็คนในเพชรบุรีเรียกกันไปเอง

ตำรวจเผยว่า แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฎิเสธ ก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผู้ต้องหาได้ โดยเฉพาะคดีแอบอ้างสถาบันแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง ผิดมาตรา 112 ไม่สำนึก ยิ่งโทษหนักรับกรรมที่ทำไป


ขอบคุณข่าวจาก::  สนามข่าว 7 สี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์