กิ๊กแค้นแฟนสาวไม่ยอมให้เจอบุกห้องขู่อาฆาต เผารถ

กิ๊ก แค้นแฟนสาวไม่ยอมออกมาเจอ

เพราะอยู่กับแฟน บุกถึงห้องพักขู่อาฆาต เผารถจยย.ระบายแค้น

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 6 ส.ค. 50

พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ เจริญศรี สารวัตรสอบสวน สภ.ต.พัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุวางเพลิงเผารถจักรยานยนต์ เหตุเกิดที่ลานจอดรถ บุญมีอพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 80/155 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ฯ พัทยา

ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ125

สีเหลือง-เทา ทะเบียน ครค 788 ชลบุรี จอดอยู่ข้างตัวอาคาร สภาพรถถูกเพลิงลุกไหม้ที่ช่วง บริเวณตัวถังรถ ใกล้กับเครื่องยนต์เป็นวงกว้าง และที่เบาะรถได้รับความเสียหายเล็กน้อย เนื่องจากมีผู้มาพบเห็นและช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน

จากการสอบสวน นางสาวประยงค์ ประทุมมา อายุ 25 ปี

ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 406 ม.1 ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เจ้าของรถคันที่ถูกก่อเหตุ ให้การว่า ผู้ก่อเหตุทราบเพียงชื่อว่านายท่อนคุง ซึ่งเคยคบหากันเป็นกิ๊ก มีอาชีพทวงหนี้ และเก็บเงินกู้

โดยก่อนเกิดเหตุ นายท่อนคุง ได้โทรศัพท์มาบอกว่าจะเข้ามาหาที่ห้องพัก

แต่ตนได้บอกปัดไป เนื่องจากแฟนของตนอยู่ที่ห้อง ทำให้นายท่อนคุง เกิดความไม่พอใจ และได้บุกมาหาถึงห้องพัก แต่ตนไม่ยอมเปิดประตูให้ และได้บอกเลิกรากันไป ด้วยความไม่พอใจ นายท่อนคุง ได้ตอบกลับมาว่า “ในเมื่อตนไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้เช่นกัน” และได้กลับออกไป จากนั้นตนกับแฟนได้กลับไป จนมาได้ยินเสียงคนร้องตะโกนว่าไฟไหม้รถ จึงรีบลุกขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นรถของตน

จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ เล่าว่า

ก่อนเกิดเหตุได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักรยายนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว-ดำ ทะเบียนจำได้แต่จังหวัดจันทบุรี มาถามหาห้องของผู้เสียหาย และได้หายขึ้นไปบนห้องพักสักครู่ ก่อนจะกลับลงมาและขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปด้วยความเร็ว จากนั้น ชายวัยรุ่นทั้ง 2 คน ได้กลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับขวดน้ำมันเบนซิน จำนวน 1 ขวด ที่แอบซุกซ่อนเข้ามา โดยคนร้ายอาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่ แอบเอาน้ำมันที่เตรียมมาราดใส่รถของผู้เสียหาย และใช้ไฟจุดเผารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ก่อนจะรีบขับรถหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้ายตามจุดต่างๆแล้ว

โดยเฉพาะเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้หลบหนี เพื่อกลับที่พักย่านจอมเทียน แต่ก็ไร้วี่แววของคนร้าย ในเบื้องต้น ได้ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.ต.พัทยา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจเชื่อว่า คนร้ายน่าจะยังอยู่ในพื้นที่ และคงสามารถจับตัวคนร้ายรายนี้ มาลงโทษตามกฎหมายได้ในไม่ช้าต่อไป