ฆ่าปาดคอสาว! ทิ้งศพเปลือย สยองเมืองกรุง ตร. สงสัยเพื่อน ชายชาวพม่า ที่ทำงานเดียวกัน หลังหายตัวไปพร้อมเมียท้องแก่ เพื่อนร่วมงานระบุผู้ตายเป็นสาวชาวอุบลฯ เพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน ช่วงค่ำเห็นนั่งซ้อนท้าย จยย.หนุ่มพม่าออกจากโรงงานไปด้วยกัน ก่อนกลายเป็นศพ รุ่งเช้า "รรท.ผบช.น." เผยพอจะรู้ตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร ชี้มีพยานหลักฐานชี้ชัดพอสมควร คาดปมมาจากเรื่องความหึงหวง
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 8 ก.ค. พ.ต.ต.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ สารวัตร (สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกปาดคอเสียชีวิตสภาพเปลือย บริเวณริมรั้วในพื้นที่ของเอกชน ภายในซอยสะแกงาม 26 แยก 1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จึงแจ้งตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช ร่วมรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก. พ.ต.อ.สำเริง ผลรอด ผกก.สน. แสมดำ พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผกก.สส.บก.น.9 ตำรวจชุดสืบสวน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณริมรั้วลวดหนามใน พื้นที่ว่างเปล่าประมาณ 20 ไร่ พบศพหญิงสาวสภาพนอนหงายเปลือยกาย สวมเพียงยกทรงสีชมพู สวมถุงเท้าสีชมพู มีบาดแผลถูกของ มีคมปาดลำคอจนหลอดลมขาด หน้าอกซ้ายถูกแทง 1 แผล และหน้าท้องซ้ายอีก 2 แผล ใกล้กันมีเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน ด้านหน้าเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษ Hatari และรูปพัดลมสีขาวตกอยู่ มีรอยถูกแทงทะลุ 3 แห่ง ห่างออกไปพบกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเปื้อนเลือด กางเกงชั้นในสีชมพู และรองเท้าผ้าใบสีชมพู ถูกทิ้งกระจัดกระจายไปทั่ว และรอยเลือดหยดเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร
ขณะตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้น มีพนักงานบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าดูศพแล้วแจ้งว่าผู้ตายคือ น.ส.ทุเรียน รอดคำทุย อายุ 24 ปี เป็นชาว จ.อุบลราชธานี ทำงานเป็นพนักงานทดลองงาน บริษัท วนวิทย์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด แผนกฉีดพลาสติก ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อฮาตาริ อยู่ในซอยสะแกงาม 42 ตำรวจจึงเชิญตัวไปสอบปากคำ
พ.ต.อ.พงศ์อานันต์เปิดเผยว่า คนร้ายปาดคอผู้ตายบริเวณที่พบศพ เนื่องจากพบกองเลือดและเส้นผมหลุดเป็นกระจุกใหญ่ สำหรับหยดเลือดที่พบต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นของผู้ตายหรือเป็นของคนร้าย ส่วนจะข่มขืนด้วยหรือไม่นั้นต้องรอผลชันสูตรจากนิติเวชอีกครั้ง มีความเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะมีความแค้นกับผู้ตาย หลังลงมือฆ่าแล้วถอดเสื้อผ้าออกเพื่อประจาน
พ.ต.อ.พงศ์อานันต์กล่าวต่อว่า สอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ตายมีปัญหาทะเลาะอยู่กับ ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนของเพื่อน มีการโพสต์ด่ากันในเฟซบุ๊ก ซึ่งเพื่อนผู้ตายให้ข้อมูลว่าก่อนเสียชีวิตผู้ตายซ้อนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ออกไปกับนายมิน อายุ 28 ปี ชาวเมียนมา ที่ทำงานอยู่แผนกเดียวกัน ช่วงเวลา 20.00 น.วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งชุดสืบสวนติดตามไปที่บ้านพักย่านบางบอน ของนายมิน เพื่อนำตัวมาสอบสวน แต่ปรากฏว่าหายตัวไปพร้อมกับน.ส.เซน อายุ 25 ปี ภรรยาที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน ซึ่งก็เป็นพนักงานโรงงานเดียวกัน อีกทั้งวันนี้ทั้งคู่ก็ไม่ได้มาทำงาน
ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่ สน.แสมดำ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าคดี ก่อนเดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ และเข้าสอบปากคำเจ้าของร้านขายของชำในซอยสะแกงาม 30 หลังพบว่าผู้ตายมานั่งดื่มเบียร์อยู่กับนายมิน ก่อนเสียชีวิต
เจ้าของร้านเปิดเผยว่า ช่วงค่ำวันที่ 7 ก.ค. นายมินขี่รถจักรยานยนต์พาผู้ตายซ้อนท้ายมานั่งดื่มเบียร์ไป 6 ขวด จนกระทั่งเวลา 22.30 น. จึงเรียกให้ผู้ตายขึ้นซ้อนท้ายรถกลับ แต่ผู้ตายมีท่าทีไม่อยากขึ้นจนเกิดมีปากเสียงกันเล็กน้อย ก่อนจะพากันออกจากร้านไปทางถนนเลียบด่วนสุขสวัสดิ์-บางนา
พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจพอจะรู้ตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร เนื่องจากมีพยานหลักฐานชี้ชัดพอสมควร ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายก็น่าจะคาดได้ว่าเป็นประเด็นอะไร ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด คาดว่าจะออกหมายจับคนร้ายได้ในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสืบสวนของตำรวจชุดคลี่คลายคดีพบว่าผู้ตายคบหากับ ผู้ต้องสงสัยมาได้ระยะหนึ่ง วันเกิดเหตุทั้งคู่ มีปากเสียงกันเรื่องความหึงหวง โดยได้ประสานไปยังด่าน ตม.ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา เพื่อเฝ้าจับกุมตัวแล้ว คาดยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย