จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) โพสต์เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ภาพจากกล้องวงจรปิดคนร้ายเพศชาย มีรูปพรรณสัญฐาน ทรงผมสั้น ผิวดำ-แดง ผอม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดคอกลม สีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว หิ้วกระเป๋าแบบสะพายข้าง ขณะกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำสาธารณะโดยดัดแปลงเป็นเครื่องกั้นหยอดเหรียญแบบอัตโนมัติ ตั้งอยู่ใต้อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง บริเวณแยกบางนา ซอยสรรพาวุธ 1 ถนนทางรถไฟสายเก่า แขวงและเขตบางนา กทม. หลังก่อเหตุข่มขืนนักศึกษาสาว อายุ 20 ปี จนสำเร็จความใคร่ก่อนลงมือชิงทรัพย์แหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา
คำสารภาพไอ้หื่นข่มขืนนักศึกษา!ทำเพราะเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ตำรวจคุมตัวทำแผน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม คำสารภาพไอ้หื่นข่มขืนนักศึกษา!ทำเพราะเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ตำรวจคุมตัวทำแผน
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ก.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อุดม ธุระงาน ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.บางนา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ร่วมกันควบคุมตัวนายเอกพล หรือเอก แซ่เตียว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 4 ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ 418/2559 ลงวันที่ 4 ก.ค. 2559 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นและชิงทรัพย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุภายหลังถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวได้ขณะโทรศัพท์อยู่ภายในตู้โทรศัพท์สาธารณะหลังโรงแรมรอแยล (รัตนโกสินทร์) ถนนราชดำเนิน แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กทม. เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนานกว่าครึ่งชั่วโมง
ซึ่งบรรยากาศโดยรอบมีประชาชนจำนวนมากต่างคอยเฝ้าสังเกตการณ์พร้อมทั้งสาปแช่งผู้ต้องหาเป็นระยะๆ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเอกพล มาแสดงท่าทางเพื่อประกอบคำรับสารภาพในสิ่งที่ผู้กระทำความผิดลงมือก่อเหตุนั้นว่าเจือสมกับข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด โดยจากการที่ทางเจ้าหน้าที่ให้ทางผู้ต้องหาทำท่าทางขณะเกิดเหตุก็เจือสมกับข้อเท็จจริงรวมทั้งสอดคล้องกับผู้เสียหายที่ให้การไว้
โดยหลังก่อเหตุตัวผู้ต้องหาเองได้ไปหลบซ่อนตัวตามสถานที่ต่างๆ ประกอบด้วยบ้านญาติ โรงแรม ในพื้นที่สำโรง จังหวัดสมุทรปราการ หมอชิต และบางซื่อ ซึ่งจากการจับกุมตัวผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจนทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนี้จะนำดีเอ็นเอของทางผู้ต้องหาไปตรวจสอบอีกด้วย ทั้งนี้ทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง โดยขณะเกิดเหตุได้เข้าไปทำธุระส่วนตัวภายในห้องน้ำสาธารณะดังกล่าว ระหว่างนั้นบังเอิญทางผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาทำธุระส่วนตัวเช่นกันซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นห้องน้ำรวมไม่แยกระหว่างชาย-หญิง จึงฉวยโอกาสผลักประตูเข้าไปล่วงละเมิดทางเพศจนสำเร็จความใคร่เนื่องจากเกิดอารมณ์เพียงชั่ววูบ หลังจากนั้นก็ชิงทรัพย์ซึ่งเป็นแหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง ของทางผู้เสียหายก่อนนำไปจำนำภายในร้านทองบริเวณแยกสำโรงเหนือ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จนมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า
ซึ่งเหตุการที่เกิดขึ้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจร่วมกันกระจายกำลังปูพรมซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 อาทิตย์จนไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อนนำมาสอบปากเบื้องต้นเรื่องก่อนหน้านี้มีกระแสว่าชอบก่อเหตุไปแอบส่องผู้หญิงตามห้องน้ำสาธารณะตัวผู้ต้องหากลับตอบว่าไม่เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว แต่ยอมรับว่านอกจากประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปแล้วนั้นยังขายบริการทางเพศให้กับสาวประเภทสองอีกด้วย ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวผู้กระทำความผิดจึงรีบพามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเนื่องจากอยากให้พี่น้องประชาชนสบายใจเพื่อพิสูจน์ยืนยันตัวตนผู้ต้องหาที่แท้จริง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหามาทำการสอบปากคำเพื่อขยายผลเพิ่มเติม ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่เกิดเหตุในประเทศไทยอีก
ทางตำรวจนครบาลได้ร่วมกันติดป้ายประชาสัมพันธ์ตามโครงการ "สุขาบชน. เพื่อประชาชน" ให้พี่น้องประชาชนเข้ามาขับถ่ายใช้บริการภายในห้องน้ำของตู้ป้อมตำรวจจราจร รวมทั้งสิ้น จำนวน 250 แห่ง ตามแยกต่างๆ และสถานที่ทำงานของตำรวจทุกแห่ง ทั้งนี้เรื่องอาคารสถานที่ดัดแปลงต่อเติมเป็นห้องน้ำสาธารณะในลักษณะดังกล่าว ต้องประสานไปทางสำนักงานเขตเรื่องของการเพิกถอนเพื่อดำเนินการเรื่องของดำเนินคดีกับเจ้าของอาคาร อยากฝากเตือนสถานประกอบการในลักษณะนี้ควรจะแยกห้องน้ำระหว่างชายและหญิง หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหนังสือถึงสถานประกอบการดังกล่าวเพื่อย้ำเตือนถึงความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคนร้ายก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศในลักษณะดังกล่าว
"ส่วนอัตราโทษของทางนายเอกพล รวมทั้งสิ้นจำนวน 2 คดี ประกอบด้วยข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น มีโทษจำคุก 4 ปี ถึง 20 ปี ปรับ 8 พัน - 4 หมื่นบาท และชิงทรัพย์ตามอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดซึ่งมีโทษจำคุกถึง 10 ปี" รรท.ผบช.น. กล่าว
ขอบคุณ :: khaosod
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!