ตรวจโรงงานตัดสูทย่านสามเสน พบแรงงานเข้าข่ายผิดกม.

เจ้าหน้าที่ชุดตรวจปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ร่วมกับสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 3 ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ในพื้นที่เขตสามเสน กรุงเทพฯ ภายหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าโรงงานแห่งนี้มีแรงงานต่างชาติจำนวนมากเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย

จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ปรากฏว่า ภายในพบบ้าน 2 หลัง และอาคารชั้นเดียว 1 หลัง ที่ใช้เป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ขณะนั้นมีแรงงานกำลังทำงานกันอยู่ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่แสดงตนขอตรวจบัตรประจำตัว จึงพบว่ามีแรงงานเป็นคนไทยที่มีบัตรประชาชน 15 คน และแรงงานสัญชาติลาว 22 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 13 คน มีหนังสือเดินทางจำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ส่วนอีก 20 คนไม่มีเอกสารมาแสดงยืนยัน ซึ่งในจำนวนนี้ มีหญิงสาวจำนวนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับเด็ก เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบว่าเข้าข่ายใช้แรงงานเด็กหรือไม่ ซึ่งกฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดโทษการใช้แรงงานเด็กอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับนายจ้าง 2 หมื่นบาท และอาจจะเชื่อมโยงปัญหาการค้ามนุษย์

ด้านนายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน(กกจ.) กล่าวว่า จากการสอบสวนที่เจ้าหน้าที่กกจ.สอบถามข้อมูลจากแรงงานต่างด้าวให้การว่าเดินทางเข้ามาโดยใช้ จากการสอบสวนแรงงานต่างด้าวให้การว่าเดินทางเข้ามาโดยใช้หนังสือผ่านแดนหรือ บอร์เดอร์พาส ( Border Pass) ผ่านด่านเข้ามาทางช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี จากนั้นจึงมาทำงานที่โรงงานเย็บผ้า ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท มีที่พักและอาหาร 3 มื้อ หากมีการทำงานล่วงเวลาจะได้ค่าแรงเพิ่มอีกวันละ 100-200 บาท โดยพนักงานสอบสวนจะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาคัดแยก หากแรงงานต่างด้าวรายใดไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์จะถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวพ.ศ.2551 มาตรา 27 ข้อหาทำงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนนายจ้างถูกดำเนินคดีตามมาตรา 51 ข้อหารับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน โดยได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่สน.พญาไท

ด้านแรงงานสาวชาวลาววัย 24 ปีรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และมาหางานทำในกรุงเทพฯ ซึ่งได้สมัครงานด้วยตนเอง จนมาได้งานทำที่โรงงานตัดเย็บแห่งนี้ โดยนายจ้างให้ใช้พื้นที่ว่างภายในโรงงานแคบๆนี้ เป็นที่พักอาศัยในเวลากลางคืนด้วย จนกระทั่งทำงานได้ 2 สัปดาห์ จนมาถูกจับในวันนี้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามลูกจ้างซึ่งเป็นคนไทยที่อ้างตัวว่าเป็นคนดูแลแทนนายจ้าง บอกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นโรงงานตัดเย็บสูท แต่วันนี้เจ้าของกิจการไม่อยู่ในบ้าน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนต่อ เพื่อขยายผลดำเนินคดีและผลักดันกลับประเทศต่อไป

ที่มา : Posttoday.com