กรณี 2 คนร้ายสวมหมวกกันน็อกอำพรางใบหน้า
ก่อคดีฉกกระเป๋าแม่นางเอกสาว หยาดทิพย์ ราชปาล อดีตหวานใจ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ขณะจอดรถลงไปเปิดประตูรั้วบ้านพักย่านตลิ่งชัน ก่อนขี่ จยย.หลบหนีไป โดยช่วงเกิดเหตุน้องหยาดงีบหลับอยู่ที่เบาะหลังรถด้วย เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนางเอกสาววัยรุ่นวอนขอความเมตตาจาก 2 โจรกรุง ช่วยกรุณาเอาสมุดจดคิวงานและตารางการเรียนที่อยู่ในกระเป๋านำมาคืนให้ด้วย พร้อมทั้งจะมอบเงินให้ 1 หมื่นบาท เป็นรางวัลน้ำใจ
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ส.ค.
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของนางเอกสาวสวยวัยรุ่น เลขที่ 36/61 หมู่บ้านเพชรวิลเลจ ซอยทุ่งมังกร 12 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. พบนางชินพรรณ ราชปาล แม่นางเอกสาวออกมาต้อนรับพร้อมเปิดเผยว่า น้องหยาดไม่อยู่บ้าน ออกไปสอบที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพตั้งแต่เช้า ส่วนเรื่องคดีหลังเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแวะเวียนมาตรวจบ่อยขึ้น
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคนร้าย
ยังไม่ได้สอบถามไปทางโรงพักว่าเป็นอย่างไร แต่ยังอยากได้สมุดคิวงานของน้องหยาดคืน เพราะจำงานทั้งหมดที่ตกลงรับงานไปจนถึงสิ้นปี 50 รวมทั้งงานโชว์ตัวในช่วงปีใหม่ไม่ได้ ครั้นจะไปรับงานใหม่ก็ไม่กล้า เพราะเกรงว่าเจ้าของงานเดิมจะหาว่าเบี้ยว แต่ถ้าผ่านไป 1 เดือนแล้ว ยังไม่ได้สมุดคิวงานคืน คงต้องรับงานใหม่ โดยอยากฝากประชาสัมพันธ์ ขอร้องให้เจ้าของงานที่เคยติดต่อไว้ ช่วยกรุณาโทรศัพท์ กลับมาเพื่อยืนยันกำหนดงานเดิมอีกครั้ง
ต่อมา พ.ต.ท.นิรันดร์ พนมชัย รอง ผกก.ป.สน. ตลิ่งชัน นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจแวะมาเยี่ยมเยียนนางชินพรรณ
พร้อมเปิดเผยถึงการติดตามตัวคนร้ายว่า เนื่องจากเจ้าทุกข์ไม่เห็นหน้าคนร้ายทั้ง 2 คน ที่สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ทำให้สเกตช์ภาพไม่ได้ ต้องใช้วิธีหาเบาะแสจากวิน จยย.รับจ้าง ถึงข้อมูลคนร้าย
อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับแม่ของน้องหยาด
มีความต้องการสมุดคิวงานคืนเป็นอย่างมาก ทางตำรวจ ได้ประสานกับวิน จยย.ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาสังเกตหากระเป๋าว่าคนร้ายนำไปโยนหรือวางทิ้งไว้แถวไหน ขณะเดียวกัน จะประสานฝ่ายสืบสวน เร่งหาเบาะแสคนร้ายที่เคยมีประวัติก่อเหตุลักษณะนี้มาเป็นข้อมูลต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สมโชค วิเศษสมิต รอง ผบก.น.7 เปิดเผยว่า
ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจพื้นที่ให้เข้มข้นขึ้น โดยให้ฝ่ายปราบปรามจัดชุด “ปะฉะดะ” รับผิดชอบพื้นที่ในหมู่บ้านเกิดเหตุ
เน้นการกวดขันรถจักรยานยนต์ที่ขี่ซ้อนท้ายกันมาให้เรียกตรวจ และถ่ายรูปทำประวัติบุคคลต้องสงสัยที่ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองรถ และไม่มีใบขับขี่เป็นสำคัญ รวมทั้งมอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 เข้าคลี่คลายคดีร่วมกับตำรวจท้องที่อีกทาง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้ กระทู้เด็ดน่าแชร์
