นายสนิท โทวรรณา อายุ 59 ปี ได้เดินทางไปติดต่อรับศพ น.ส.จุฬารัตน์ โทวรรณา หรือ ครูอิ๋ว อายุ 26 ปี ครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง บุตรสาว ซึ่งถูกนายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี คนร้าย บุกเข้าห้องพักพยายามจะข่มขืน แต่ได้ดิ้นรนต่อสู้แบบไม่คิดชีวิต จนถูกฆ่าปาดคอจนเสียชีวิต ในหอพัก ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทำพิธีเชิญวิญญาณบุตรสาวกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านบุ่งค้า หมู่ 3 ต.พระธาตุ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิด และตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดบุ่งค้า อย่างเรียบง่ายท่ามกลางบรรดาข้าราชการครู ญาติๆ และประชาชนเดินทางมาแสดงความอาลัย และเคารพศพเป็นระยะๆ
นายสนิท กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่าลูกสาวถูกฆาตกรรม ก็ใจหายวาบทำอะไรไม่ถูกกินไม่ได้นอนไม่หลับ ลูกสาวคนนี้เรียนเก่ง และขยัน เพิ่งเรียนจบ และรีบพาญาติพร้อมครอบครัวเดินทางไปดูศพ และติดต่อขอรับศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเณีที่บ้านเกิด โดยจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน และจะมีพิธีฌาปณกิจศพ ในวันที่ 6 ก.ค.นี้ เวลา 16.00 น. ทั้งนี้ตนเองมีบุตร ด้วยกัน 3 คน ตนโตเป็นชาย ทำงานอยู่ที่ กศน. อ.เชียงขวัญ คนที่ 2 เป็นหญิง รับราชการครูอยู่ต่างจังหวัด และคนสุดท้าย คือผู้เสียชีวิต
"เกี่ยวกับคดีทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่สามารถปิดคดีได้เร็ว แต่อยากให้ดำเนินคดีให้หนัก ไม่ควรมีการลดหย่อนโทษสำหรับฆาตรกรที่ก่อเหตุเช่นนี้ อยากเตือนให้สังคมทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุภาพสตรี หรือหญิงสาวที่อยู่ในสถานที่เปลี่ยวต้องระมัดระวัง ต้องรู้จักป้องกันสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ก่อน หรืออย่าประมาทนั่นแหล่ะเป็นสิ่งดี อย่างไรก็ตามในบางขณะคนร้ายจู่โจมอย่างที่ไม่มีการตั้งตัว เมื่อมีการจับคนร้ายก่อคดีฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้จึงต้องการให้ดำเนินคดีและลงโทษอย่างหนักโดยไม่มีการลดหย่อน" นายสนิท กล่าว